จัดฟันใส หรือ Invisalign เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนรุ่นใหม่ในการจัดฟัน เพราะทำแล้วดูแลง่าย เหมือนไม่ได้ใส่เครื่องมือ ทำให้แทบดูไม่ออกเลยล่ะค่ะว่ากำลังจัดฟันอยู่ หลายคนจึงชื่นชอบวิธีนี้ แต่ด้วยความที่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าการจัดฟันเหล็กทั่วไป (Bracket Brace) จึงทำให้เกิดความลังเลใจว่าจะจัดฟันแบบใสดีไหมนะ? วันนี้เราเลยรวบรวมคำถามที่พบบ่อย และ 8 ข้อดีของการจัดฟันแบบใสมาฝากทุกคนกันค่ะ
รวบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใสที่ทุกคนต้องรู้
การจัดฟัน จริง ๆ แล้วเป็นวิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับฟันที่เรียงตัวไม่ระเบียบ เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ ทำให้ฟันเรียงตัวสวย ส่งยิ้มได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในบางเคสอาจมีผลพลอยได้ทำให้รูปหน้าเปลี่ยน เพราะเมื่อมีการดึงฟันเข้าก็จะทำให้ขากรรไกรมีความเปลี่ยนแปลง ทำให้ใบหน้าเล็กลงหรือคางเรียวชัดขึ้นได้
ทั้งนี้การจัดฟันจะทำโดยทันตแพทย์จัดฟัน (Orthodontist) เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดฟันแฟชั่นที่นอกจากจะไม่ถูกหลักสุขอนามัยแล้วยังส่งผลให้เหงือกและฟันเสียหาย อย่างที่เราเคยเห็นในข่าวนั่นเองค่ะ
จัดฟันใสคืออะไร?
จัดฟันใส หรือที่เราเรียกกันว่าการจัดฟันแบบ Invisalign เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการจัดฟันที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น เพราะชุดเครื่องมือสามารถถอดออกได้ ใส่สบายไม่ระคายเคืองปากเหมือนกับการจัดฟันเหล็ก ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นกับฟัน และแทบจะดูไม่ออกเลยค่ะว่ากำลังจัดฟันอยู่ วิธีนี้จึงได้รับความนิยมในหมู่ดาราวัยรุ่นเป็นอย่างมาก โดยทันตแพทย์จะพิมพ์ปากแล้วสร้างเครื่องมือจัดฟันเฉพาะบุคคลที่เรียกกันว่าแผ่นใส Aligner ซึ่งจะใส่ประมาณ 7 – 14 วัน แล้วเปลี่ยนชุดใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ฟันมีการขยับเคลื่อนตัวเข้าที่จนกระทั่งครบตามแผนการรักษา
ในส่วนของการจัดฟันแบบใสก็จะมีอยู่ 4 รูปแบบตามสภาพของฟันดังต่อไปนี้ค่ะ
- Invisalign Go เหมาะกับคนที่เคยจัดฟันมาก่อน แต่ไม่ค่อยได้ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน ช่วยแก้ปัญหาฟันห่าง หรือฟันซ้อนเกเล็กน้อย ไม่มีปัญหาด้านการบดเคี้ยวหรือการสบฟันในฟันหลังหรือฟันกราม โดยจะใช้เครื่องมือ 20 คู่
- Invisalign Lite เหมาะกับคนที่มีปัญหาฟันซ้อนหรือฟันเกไม่มาก ใส่เครื่องมือ 8-14 คู่ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี
- Invisalign Express เหมาะกับคนที่เคยจัดฟันมาก่อนและมีปัญหาฟันเกเนื่องจากไม่ได้ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน โดยจะใช้เครื่องมือไม่เกิน 7 คู่ ในระยะเวลา 6 เดือน
- Invisalign Full (Moderate หรือ Comprehensive) เหมาะกับคนมีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือความผิดปกติของการสบฟันค่อนข้างมาก โดยต้องใส่เครื่องมือ 15 คู่ ขึ้นไปและใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ปี
จัดฟันแบบใสเหมาะกับใครบ้าง?
- คนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ หรือไป ๆ มา ๆ ระหว่างประเทศ
- คนที่ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่ากำลังจัดฟันอยู่
- คนที่แพทย์ประเมินแล้วว่าฟันไม่ได้มีปัญหาซ้อนเกมากจนต้องรักษาร่วมกับวิธีอื่น
ข้อจำกัดของการจัดฟันแบบใส?
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบลวดเหล็กทั่วไป โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 64,000 – 180,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสภาพของฟัน)
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย แต่ต้องมีวินัยในการใส่ชุดเครื่องมือ Aligner เพื่อให้ฟันสามารถเคลื่อนตัวเข้าที่ได้ตามกำหนด
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีฟันซ้อนหรือฟันเกมาก และต้องใช้วิธีการรักษาอื่น ๆ เพิ่มเติม
จัดฟันแบบใสแล้วเจ็บไหม?
การจัดฟันคือการรักษาฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ดังนั้นเมื่อมีการใส่เครื่องมือทำให้ฟันเคลื่อนที่ตามแผนการรักษาก็อาจทำให้รู้สึกตึง ๆ ในช่องปากได้ค่ะ แต่การจัดฟันแบบใสจะเจ็บน้อยกว่าการใส่เหล็กจัดฟันทั่วไป และอาการปวดตึงจะหายได้เองตามปกติใน 2 – 3 วัน ดังนั้นใครที่อยากฟันสวยก็ต้องอดทนนิดหน่อยจะได้อวดรอยยิ้มอย่างมั่นใจนะคะ
8 ข้อดีของการจัดฟันแบบใสที่คุณควรรู้
เอาละค่ะ ทราบกันไปแล้วว่าการจัดฟันแบบใสคืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง? ทำแล้วจะเจ็บรึเปล่า? คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าข้อดีของการจัดฟันแบบใสมีอะไรบ้างที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น
- ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกินของอร่อย เพราะสามารถถอดเครื่องมือออกได้ตอนกินอาหาร
- ไม่ต้องกังวลว่าเหล็กจะหลุดลงท้องหากทานอาหารที่มีลักษณะแข็ง
- ไม่ระคายเคืองช่องปาก เหล็กไม่ขูดกับกระพุ้งแก้มจนเป็นร้อนใน
- รักษาความสะอาดได้ง่าย แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้สะดวก
- ใช้เวลาไม่นานก็สามารถทำให้ฟันเคลื่อนที่เรียงตัวสวยได้เร็วกว่าการจัดฟันทั่วไป
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย ๆ และเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันเหล็ก
- ช่วยให้สุขภาพปากและฟันดีขึ้น เพราะถอดทำความสะอาดได้ง่าย
- เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ทำให้ชีวิตสะดวกสบายง่ายขึ้น
ดีขนาดนี้เริ่มอยากจัดฟันใสแล้วใช่ไหมคะ? สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ฟันซ้อน ฟันเก เรียงตัวไม่สวย ยิ้มแล้วไม่มั่นใจ เรามีดีลสุดคุ้มสำหรับการจัดฟันแบบใส จากเว็บไซต์ Thaiger Deals มาฝาก หรือสามารถคลิกเข้าไปดูดีลเด็ดสุดคุ้มได้จากลิงก์ด้านล่าง
[lasso ref=”thethaiger-link-25″ id=”719873″ link_id=”498858″]
จัดฟันแล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพช่องปากด้วยการแปรงฟันอยู่เสมอ ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้ง งดอาหารที่อาจทำให้ฟันผุ จะได้มีฟันสวยและแข็งแรงไปนาน ๆ นะคะ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
- ฟอกฟันขาว ราคาเท่าไหร่ อัปเดต ปี 2023
- การอุดฟัน (Dental Filling) คืออะไร และใครบ้างที่ควรอุดฟัน ?
- รักษารากฟัน คืออะไร เจ็บไหม ราคาเท่าไหร่ อยากรู้ต้องอ่าน!
- LDC Dental ชวนจัดฟันอย่างปลอดภัยกับทันตแพทย์เฉพาะทาง
