จากกรณีข่าวของนางงามสาว ‘แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์‘ Miss Universe Thailand 2015 เจอมรสุมหนัก บ้านที่ตั้งใจซื้อให้ตายายถูกอายัด มีโอกาสสูงมากที่จะโดนยึด เพราะหนี้สินที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ล่าสุด (6 ธ.ค. 65) ทางนางงามสาวก็ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ ดีใจบ้านไม่โดนยึดหลังช่วยปิดหนี้จนหมดบัญชี ขณะร่วมงาน ‘CineAsia 2022‘ โดยระบุว่า
ประนีประนอมกับเจ้าหนี้ จนสำเร็จเคลียร์เรื่องบ้านเรียบร้อยแล้ว ?
“ใช่ค่ะ เพิ่งเคลียร์ไปประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ”
ได้บ้านคืนกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์ ใช่ไหม ?
“ใช่ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า ก่อนหน้านี้บ้านของแนทมันติดจำนองไว้อยู่แล้ว เพราะว่าแนทผ่อนบ้าน ถูกไหมคะ แต่พอมีคดีความแบบนี้ บ้านมันก็เลยต้องถูกอายัดไว้ และก็จะถูกยึดไว้ในส่วนที่ต้องชดใช้หนี้สิน
ซึ่งตัวแนทเองได้มีการปรึกษาทนาย รวมถึงได้มีการหาทางออกร่วมกัน ดังนั้นตอนนี้ก็เลยถูกถอนชื่อออกจากการถูกฟ้องร้อง บ้านไม่โดนยึดแล้วค่ะ
ในส่วนของการเจรจาก็คือ เหมือนแนทคุยกับทางเจ้าหนี้นะคะ เป็นการคุยในส่วนของข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เหมือนเราเอาข้อเท็จจริงมาตีกันเลยว่า ณ ความจริงแนทไม่ได้เป็นคนยืมเงินเขา แนทไม่ได้เป็นหนี้ แต่ว่าในส่วนที่แนทช่วยได้ แนทก็ช่วยได้ประมาณนี้ และประมาณนี้ของแนทมันก็คือหมดบัญชีของแนทแล้วที่แนทช่วย
รวมถึงแนทก็เอาเรื่องหลาย ๆ อย่างมาคุยกัน คือมันเยอะมาก เพราะว่าเราไกล่เกลี่ยกันตั้งแต่บ่ายโมง กว่าจะเสร็จก็เกือบ 4 โมงแล้ว คือแนทก็จะมีโกลของตัวเองเหมือนกันว่าแบบ ฉันจะจ่ายเงินเท่านี้ ถ้าจะสมมติว่าไม่รับก็ไม่เป็นไร ก็ยึดบ้านได้เลย เพราะแนทคงไม่สามารถผ่อนบ้านไปได้ และก็ชำระหนี้ในส่วนนี้ไปได้”
ระบุได้ไหมว่าจำนวนหนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ ?
“หลายล้านค่ะ ก็ประมาณเกือบ 2 ล้าน แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นคือมันก็มีในส่วนก่อนหน้านี้ด้วยที่เราเสียไปแล้ว อาจจะเป็นแบบส่วนอื่นหรือใด ๆ ก็ตาม ขอไม่ลงดีเทลละกันเพราะมันละเอียดอ่อนมาก”
ส่วนที่เราจ่ายไปคือเท่าไหร่ ?
“สำหรับส่วนที่แนทจ่ายไป เอ่อ…เกือบประมาณ 5 แสน เกือบ 6 แสน รวมค่าอื่น ๆ คือแนทก็พูดในข้อมูลของความเป็นจริงว่ามันก็สุดแล้ว เพราะแนทไม่ได้เป็นนักแสดงใหญ่โต
ซึ่งคนภายนอกอาจจะเข้าใจว่าถ้าเป็นนักแสดงต้องได้เงินเยอะ แต่แนทก็ได้ชี้แจงกับทางฝั่งเจ้าหนี้ไปว่า ปกติแล้วเวลาหนูเดินแฟชั่นโชว์ บางงานก็ได้แค่ 7,000 บาท โดนหัก 30 เปอร์เซ็นต์ หรือบางงานได้ 5,000 บาท ก็โดนหัก 30 เปอร์เซ็นต์ และก็งานนู้นงานนี้
คือกว่าหนูจะรวบรวมเงินเป็นก้อนได้ หนูก็ต้องทำงานเก็บเงิน ซึ่งหนูก็ได้ชี้แจงให้เขาฟังว่ามันคือที่สุดของแนทแล้ว เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าแนทเอาเปรียบเขา เพราะแนทก็พูดจริง ๆ ว่ามันก็คือที่สุดของแนทแล้ว”
สบายใจขึ้นไหมได้บ้านกลับคืนมา ?
“โดยส่วนตัวแนท แนทไม่ได้ยึดติดกับบ้านอยู่แล้วค่ะ คือเมื่อก่อนเราก็ไม่มีบ้าน ดังนั้นถ้าวันนี้เราจะไม่มีบ้าน สำหรับแนทมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่แนทเป็นห่วงมากที่สุดคือความรู้สึกของตายาย
เพราะในวันที่เราบอกว่าเราไกล่เกลี่ย คือตายายอ่ะในใจแก แกคงคิดว่าไม่ได้แล้วแหละ เพราะแกก็เก็บข้าวเก็บของมานั่งรอบนโซฟา แต่พอแนทมาบอกกับแกถึงผลการเจรจา แกก็ดีใจ เหมือนแกโล่ง ก็ดีใจมาก ๆ ค่ะที่สเต็ปแรกเราได้บ้านกลับมา
เพราะสเต็ปต่อไปคือแนทต้องทำเรื่องกับธนาคาร และก็ต้องทำในส่วนต่าง ๆ อีก แต่สำหรับตอนนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ก็คือโล่งแล้ว”
สำหรับกรณีนี้เป็นการไกล่เกลี่ยจบ หรือว่าใช้กฎหมาย ?
“ใช้กฎหมายเลยค่ะ อันนี้เป็นเรื่องของกฎหมายเลย เพราะว่าเราอ่ะเป็นจำเลยที่ 2 ใช่ไหมคะ การที่เราชดใช้หนี้จำนวนนี้คือต้องถอนชื่อเราออกเลย เราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนี้ก้อนนี้อีกแล้ว ก็คือมีลายลักษณ์อักษรทุกอย่าง มีทนายอยู่ด้วย คือเราก็ต้องกันไว้ก่อน”
ได้ทำข้อตกลงกับคุณแม่ของเราด้วยไหม พอทุกอย่างมันเคลียร์หมดแล้ว ?
“ในส่วนตรงนี้ คือในอนาคตมีแน่นอนค่ะ แต่ว่า ณ ตอนนี้แนทกำลังจัดการอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่ ทั้งในส่วนของบ้านที่อยากเคลียร์ให้เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ด้วย”
ตอนนี้จบแล้วก็สบายใจ ?
“ใช่ สบายใจค่ะ (ยิ้ม)”
บ้านก็ยังผ่อนต่อเนอะ ?
“ใช่ค่ะ จ้างงานได้นะคะ (หัวเราะ) คือยังไม่ถึงครึ่งทางเลยตอนนี้เพราะว่าบ้านเพิ่งซื้อ จ่ายดอกอยู่ค่ะตอนนี้ จ้างงานได้นะคะ หนูเป็นเด็กดีและก็ขยันมาก ๆ ค่ะ”