มวยเขมร ขึ้นทะเบียนยูเนสโกเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน มวยเขมร หรือ กุน ลโบกาตอร์ (Kun Lbokator) เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมความพยายาม โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรมที่เดินเรื่องมาตั้งแต่ปี 51
วันที่ 1 ธันวาคม 2565 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) โดยสมาชิก 24 คนของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ที่เมืองราบัตของโมร็อกโกยังลงมติเมื่อ 29 พ.ย. ให้ขึ้นทะเบียน กุน ลโบกาตอร์ (Kun Lbokator) หรือ ศิลปะการต่อสู้ของกัมพูชา หรือที่รู้จักกันว่า “มวยเขมร” (Kun Khmer) ในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage)
สำหรับ มวยเขมร กลายมาเป็น 1 ใน 22 มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของยูเนสโกในปีนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนทางวัฒนธรรมจากประเทศต่างๆ อย่างเช่น ขนมปังบาแกตต์ของฝรั่งเศส พิธีชงชาของจีน พิธีเต้นรำฟูริวโอโดริของญี่ปุ่น เทศกาลสัปดาห์อันศักดิ์สิทธิ์ของกัวเตมาลา เครื่องดนตรีอู๊ดของอิหร่าน แน่นอนว่ารวมถึงมวยเขมร และอีกมากมาย
โดย ยูเนสโกได้อธิบายถึงมวยเขมรไว้ว่า เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ย้อนกลับไปได้ถึงสมัยจักรวรรดิเขมร (คริสต์ศตวรรษที่ 9-15) มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาความเข้มแข็งทางกายและจิตใจ และวินัยของผู้ฝึก ผ่านเทคนิคการป้องชนิดป้องกันตัว และปรัชญาของสันติวิธี มวยเขมรในฐานะที่เป็นตัวแทนค่านิยมของกัมพูชา จึงถูกนำมาแสดงในพิธีกรรมและงานเทศกาลต่างๆ พร้อมๆ กับศิลปะอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวชื่นชมความพยายามขึ้นทะเบียนมวยเขมรทำให้กลายเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมได้สำเร็จ โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ ซึ่งได้พยายามดำเนินเรื่องกับยูเนสโกมาตั้งแต่ปี 2551