อนุพงษ์ เผ่าจินดา เผยพร้อม ยกเลิกกฎหมายต่างชาติซื้อที่ดิน หรือเพิ่มความเข้มวงด หากประชาชนไม่สบายใจ ย้ำไม่มีเจตนาขายชาติ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นกฎหมายเรื่องต่างชาติซื้อที่ดิน แลกกับเงินลงทุนในไทย 40 ล้านบาท ที่เป็นที่พูดถึงและวิจารณ์ไปก่อนหน้านี้
บิ๊กป๊อก แจงเกี่ยวกับกฎต่างชาติซื้อครองที่ดินว่า การออกกฎกระทรวงใหม่ เริ่มมาจากวิกฤตโควิด-19 คณะทำงานเศรษฐกิจเชิงรุกจึงคิดว่าทำอย่างไรจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งมีการพิจารณาหลายเรื่อง รวมถึงร่างกฎกระทรวงใหม่ดังกล่าว ที่ต้องการให้ต่างชาติที่อยากมาพำนักในประเทศไทยในระยะยาว ได้มีการลงทุนด้วย
มีการตรวจสอบแบล็กลิสต์ต่างๆ และการพิสูจน์เรื่องความเชี่ยวชาญพิเศษ มีขั้นตอนการพิจารณากลั่นกรองคนกลุ่มนี้เข้ามา ที่จะต้องได้ Long-Term Resident Visa หรือ LTR ซึ่งการออกกฎกระทรวงใหม่มีความรัดกุมมากกว่าเดิม เพราะมีการกำหนดระยะเวลาลงทุน 3 ปี จึงจะขายได้ มีการเพิ่มว่าต้องลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และที่ดินต้องอยู่ในเขตที่กำหนดว่าอนุญาตให้เป็นที่อยู่อาศัยได้ นี่คือเจตนาและความตั้งใจ ที่ทางรัฐบาลออกมาตรการที่รัดกุม
“เราไม่มีเจตนาขายชาติ ไม่มีใครทำเช่นนั้น ผมเชื่อว่าคนในสภานี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน คงไม่มีเจตนาแบบนั้น ดังนั้น หากจะมาพูดว่าขายชาติ คงต้องปฏิเสธว่าไม่มี ไม่มีใครคิดเช่นนั้น และไม่ได้ต้องการให้ต่างชาติครอบครองที่ดินตามที่เกรงกลัว เรามีมาตรการระเบียบรองรับแล้ว ส่วนที่กังวลว่าต่างชาติจะซื้อที่ดินแปลงติดกันจนผิดปกตินั้น เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และยังบอกด้วยว่าหากประชาชนรู้สึกไม่สบายใจมากๆก็พร้อมเพิ่มความเข้มงวดหรือ จะยกเลิกกฎหมายขายที่ดินให้ต่างชาติ ยืนยันไม่มีการขายชาติ
“ผมคิดว่าอาจจะล้มก็ได้ อันนี้ผมตอบแทนไว้ เพราะผมก็เป็น 1 ในครม. หากประชาชนไม่สบายใจมีความกังวลมาก เมื่อมีการทักท้วงก็ทำได้ ไม่มีอะไรเสียหน้าทั้งสิ้น ก็ฟังความเห็นกัน แต่ที่อยากชี้เจตนาคือไม่มีเรื่องขายชาติ แต่เป็นการทำนโยบายด้านเศรษฐกิจจนเกิดกฎกระทรวงดังกล่าว และไม่มีเจตนาเอื้อกลุ่มทุน เพราะไม่ใช่ธุระ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะไปโอบอุ้มหรือเกี่ยวข้องตรงนั้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ป๋าเทพด่าขายแผ่นดิน เตือน ‘ประยุทธ์’ ระวังไม่มีใครเลือก
