ธนาคารออมสิน เตรียมแจงพรุ่งนี้ กรณี ยึดผิดบ้าน ยกของจนเกลี้ยง
ธนาคารออมสิน เตรียมชี้แจงพรุ่งนี้ 14.00 น. กรณี ยึดผิดบ้าน ยกของจนเกลี้ยง แถมของใช้บางส่วนทำลายทิ้งไปแล้วด้วย
จากกรณีที่ ธนาคารยึดบ้าน แต่ผลปรากฎยึดบ้านผิด และได้ทำการ ตัดต้นไม้ รื้อกันสาด ยกสิ่งของออกไปจนหมดเกลี้ยงบ้าน และติดป้ายประกาศทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก ก่อนที่จะยอมรับว่าธนาคารยึดผิดบ้านจริงตามที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดทาง ธนาคารออมสิน ธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้ออกมาแจ้งกับทีมสื่อมวลชนว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค. 65) เวลา 14.00 น. ทางธนาคารออมสิน จะแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน
ขณะที่ทางผู้เสียหายสองคนได้เดินทางเข้าพบ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องเรียนถึงเหตุธนาคารยึดผิดบ้าน ก่อนพาสื่อมวลชนไปดูสภาพบ้าน ภายในหมูบ้านแห่งหนึ่ง ต.บางคูวัด จ.ปทุมธานี
ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 ธนาคารพร้อมกับผู้รับเหมา บุกเข้ามาในบ้าน และเริ่มทำการรีโนเวทใหม่ พร้อมกับติดป้ายประกาศว่า “ทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก” โดยมีช่างกินนอนใช้น้ำใช้ไฟอยู่ในบ้าน 3-4 วัน ซึ่งช่วงนั้นตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งทำให้ไม่รู้ว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ต่อมา 15 ก.ย. 65 เพื่อนบ้านโทรมาถามว่าตนจะขายบ้านหรอ เห็นมีคนมารีโนเวทบ้าน เห็นว่าบ้านเลขที่ไม่ใช่ 99/38 แต่เป็น 99/40 ซึ่งอยู่ถัดออกไปอีก 3 หลัง พอเพื่อนบ้านได้ลองโทรธนาคาร เลยทำให้ธนาคารรู้ว่ายึดบ้านผิดหลัง และรีบมาเอาป้ายประกาศออก เหลือไว้แต่กุญแจสีชมพู
ผู้เสียหายที่ถูกธนาคารยึดบ้าน บอกอีกว่า พอมาเห็นสภาพบ้าน ถึงกับร้องไห้ออกมา เพราะบ้านเปลี่ยนไปหมดเลย กันสาดหน้าบ้านถูกรื้อออก ต้นไม้ถูกตัด ทรัพย์ในบ้านทั้ง เสื้อผ้า หนังสือ รูปถ่ายครอบครัว พระเครื่อง รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าหายหมดเกลี้ยง
เบื้องต้นได้พูดคุยกับธนาคาร ซึ่งทางธนาคารออมสินยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด ที่เข้ามายึดบ้านผิดหลัง และได้ไปไกล่เกลี่ยกันต่อหน้าตำรวจ เพื่อตกลงเรียกร้องค่าเสียหาย โดยเบื้องต้นประเมินไว้ที่ 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจนถึงวันนี้เรื่องยังไม่คืบ
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของทางธนาคาร จึงอยากให้ออกมาชี้แจง เนื่องจากจะไปยึดบ้านหลังไหนต้องมีรายละเอียดของบ้าน เช่น บ้านเลขที่ หรือหลังไหนที่ชัดเจน แต่กลับมายึดบ้านผิดหลังเช่นนี้ โดยจะแจ้งความดำเนินคดีใน 4 ข้อหา 1.บุกรุก , 2.ลักทรัพย์ , 3.ทำให้เสียทรัพย์ และ 4.หมิ่นประมาท