กรมควบคุมโรคเผย พบ ฝีดาษลิงรายที่ 3 เป็นชาวเยอรมันที่เดินทางมาภูเก็ต คาดนำเชื้อมาจากที่อื่น เนื่องจากถึงไม่นานก็แสดงอาการ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ยืนยันพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 3 เป็นชาวเยอรมนี เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่จังหวัดภูเก็ต โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่แพทย์จะทำการสืบสวนโรคเพื่อตรวจสอบไทม์ไลน์ต่อไป
นพ.โอภาส เผยว่า ผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 3 เข้ามาถึงไทยไม่นานถึงเริ่มมีอาการ คาดว่าน่าจะได้รับเชื้อมาจากประเทศอื่น ผู้ป่วยให้ประวัติว่า เคยไปๆ มาๆประเทศไทย และกำลังติดตามหาผู้สัมผัสใกล้ชิด และกลุ่มเสี่ยงเพื่อคัดกรองต่อไป
เบื้องต้นผลยังไม่พบผู้ติดเชื้อในผู้สัมผัส แต่ตามแนวทางจะต้องให้สังเกตอาการ 21 วัน โดยสามารถไปไหนมาไหนได้ แต่ต้องระวังการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น
“ส่วนความเสี่ยงที่โรคฝีดาษลิงจะกระจายในประเทศไทย จะสังเกตว่า 3 ราย เป็นเพศชาย ตรงกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า 98% มีประวัติชายรักชาย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของไทย เป็นชายทั้งหมด โดยเป็นต่างชาติ 2 ราย และคนไทย 1 ราย ที่สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ ฉะนั้น ความเสี่ยงคือการสัมผัสใกล้ชิดต่างชาติกับผู้ป่วยฝีดาษลิง” นพ.โอภาสกล่าว
สำหรับโรคฝีดาษลิง โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยโรงฝีดาษลิง จะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการเบื้องต้นมีหลายอย่าง อาทิ มีไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว, เจ็บคอ, บวม, ปวดหลัง, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย. บางรายอาจพ่วงอาการง่วงซึม แต่เมื่อไข้ทุเลาลง อาจเกิดผื่นขึ้น มักจะเริ่มจากบนใบหน้าก่อน จากนั้นจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย.
ผื่นส่วนใหญ่ จะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า อาจมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง และมีการเปลี่ยนแปลงหลายขั้น ก่อนที่ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ซึ่งในระยะสุดท้ายตุ่มหนอง จะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา เหตุนี้เองโรคฝีดาษลิงอาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา โดยปกติแล้วอาการป่วย จะอยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ และสามารถหายเองได้
- สธ. เผย ต้นเหตุฝีดาษลิงรายที่ 2 อาจออกไทยไปแล้ว
- ‘หมอธีระ’ เผย ภาพไวรัสฝีดาษลิง ที่มาจากการสวอปผ้าเช็ดตัว
- เปิดรายละเอียด ผู้ป่วยฝีดาษลิงในไทยรายที่ 2
