‘มะเดี่ยว ชูเกียรติ’ เอ่ยถึง ‘นก สินจัย’ หลังหนัง ‘รักแห่งสยาม’ ได้ฉายในงาน ‘กรุงเทพกลางแปลง’ ชี้ เราควรคิดที่จะอยู่ร่วมกันมากกว่าทำลายกัน
สิ้นสุดกันไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับงาน ‘กรุงเทพกลางแปลง‘ แต่หนังที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเห็นทีคงจะเป็นเรื่อง ‘รักแห่งสยาม‘ ของผู้กำกับชื่อดัง ‘มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล‘ ที่นำแสดงโดย ‘มาริโอ้ เมาเร่อ‘, ‘พิช วิชญ์วิสิษฐ์ หิรัญวงษ์กุล‘, ‘นก สินจัย เปล่งพานิช‘. ฯลฯ ที่ถูกคอหนังจับตามองกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับตัวของ นก สินจัย ที่มีคนแสดงความเห็นต่างกันเป็นจำนวนมาก
- ‘มะเดี่ยว’ เผยฉากโดดน้ำช่วยคนยังต้องเซ็นเซอร์ เหตุจมน้ำตายหลายเคส
- ‘มดดำ’ เผยสาเหตุ ‘โอ๋ ภัคจีรา’ เลิกสามี ‘เฟี้ยต มธุกร’ รักร้าวเพราะเหตุนี้ ?
- คลิปนาที ‘โชค ไทรถแห่’ หักหน้า ‘บอล เชิญยิ้ม’ กลางคอนเสิร์ต ลั่น เหมือนฆ่ากันบนเวที
ล่าสุด (30 ก.ค.) ทาง มะเดี่ยว ชูเกียรติ ก็ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความเอ่ยถึง นก สินจัย หนึ่งในนักแสดงสำคัญใน รักแห่งสยาม ที่มาร่วมงาน กรุงเทพกลางแปลง ชี้ เราคิดจะอยู่ร่วมกันให้ได้มากกว่าจะทำลายล้างกัน เชื่อว่าทุกคนจะมีจุดเปลี่ยน เมื่อเวลาและประสบการณ์พาเราไปเจอจุดที่เหมาะที่ควร โดยระบุว่า
“ก่อนจะจัดเสวนาคุยกันว่าควรชวนกันมาทั้งหมดไหม เอาจริงๆไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการปรากฏตัวของสินจัย ซึ่งเธอมีสิทธิ์จะได้รับเกียรติมาร่วมระลึกถึงผลงานที่เธอทุ่มเทชิ้นนี้ และเมื่อพี่นกแสดงความจำนงว่าจะมาร่วมงาน เรายินดีจะโอบกอดไมตรีจิตในครั้งนี้
มันเปนงานที่ประหลาดมาก ด้านซ้ายเราคือน้องๆกลุ่มไปม็อบ บางคนมาด้วยกำไล EM ที่ข้อเท้า ขวามือเราคือนักแสดงหญิงผู้ยึดมั่นในความเชื่อของตน และไม่รู้ว่าเธอต้องรวบรวมความกล้าแค่ไหนที่จะเดินเข้ามาในวงของผู้เห็นต่าง ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
ขณะที่พูดคุยมองไปข้างๆก็จะประสานสายตากับพี่หัวเกรียนที่เหมือนจะซึมซับทุกประโยคที่เราพูดเก็บไว้ในใจ จนวูบหนึ่งอยากได้พี่เขาเปนแฟนเพราะอยากมีคนใส่ใจทุกคำพูดอย่างนี้มานานแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าถ้าเกิดปลุกระดมอะไรขึ้นมาก็น่าจะถูกชาร์จก็ตาม
ไม่ว่าใครจะมาด้วยวิถีใดก็ตามแต่ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เราเองกลับรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ประเมินวุฒิภาวะของน้องๆคลาดเคลื่อนไป กลัวเขาจะโห่ใส่พี่เขา หรือกลัวพี่เขาจะลุกขึ้นมาทวงถามเพลงสรรเสริญ ระแวงว่าสันติบาลจะรวบคนจัดงานไปกรณีไปพูดอะไรไม่ถูกใจ ละนี่ก็ถึงขั้นเตรียมเพลงของขวัญเอย ต้นไม้เอย เผื่อมีใครขอขึ้นมา ? เอาจริงๆเหมือนประสาทแดกเพราะไม่ได้สัมผัสการอยู่ท่ามกลางมนุษย์มากมายขนาดนี้มานานแล้ว
เราว่ามันผ่านไปด้วยดีเพราะในพื้นที่นั้นมันมีพลังบวกเต็มไปหมด มันมาจากพื้นที่ ผู้คนที่มาร่วมสร้างบรรยากาศเหล่านั้นขึ้น บางคนไม่ได้จะดูหนังหรอกแค่มาแสดงความรักต่อภาพยนตร์ที่เขารัก มาเจอเพื่อนเก่า มาฟังเพลง มาอะไรก็ตามแต่
พลังที่ทุกคนส่งมามันส่งถึงใจกันจริงๆนะ เราอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ตอนนี้ แต่อย่างน้อยเรามาอยู่ในภาวะของความอิ่มเอม มันอาจจะเปิดใจเราให้รับความแตกต่างมากขึ้น และการยอมรับในความแตกต่างความเข้าใจชีวิตอื่น ก็คือหัวใจหนึ่งของ #รักแห่งสยาม
ก่อนกลับบีบมือพี่นกแน่นอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เรามองตากันอยู่เนิ่นนาน โดยไม่พูดอะไร เรารู้ว่าพี่นกเห็นว่าเราเคยผ่านอะไรมา เช่นเดียวกับเราที่เข้าใจว่าแกต้องเจอกับอะไรอยู่ตอนนี้ เราไม่คาดหวังว่าจะเปลี่ยนแกได้ เพราะแกก็เหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพหลายคน ที่เราคิดจะอยู่ร่วมกันให้ได้มากกว่าจะทำลายล้างกัน ?
สุดท้ายแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนจะมีจุดเปลี่ยน เมื่อเวลาและประสบการณ์พาเราไปเจอจุดที่เหมาะที่ควร อย่าเชื่อว่าคนเราจะไม่มีวันเปลี่ยนได้ แม้กระทั่งตัวของเราเอง ถึงวันที่คุณไม่เหมือนเดิม คุณต้องการให้โลกนี้ปฏิบัติยังไงกับคุณ น่าคิดไหมครับ?
ยังรักทุกคนเหมือนเดิมครับ”