กรมการปกครอง เปิดเผยรายละเอียดปฏิบัติการจับกุม ส่วยสถานบันเทิง นนทบุรี
กรมการปกครอง เปิดเผยรายละเอียดของปฏิบัติการจับกุมผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมการปกครองเรียกเก็บ ส่วยสถานบันเทิง ใน จ. นนทบุรี
ส่วยสถานบันเทิง นนทบุรี – (9 ก.ค. 2565) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กรมการปกครองว่า
เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 7 ก.ค. 65 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ ที่ทำการปกครองจังหวัดนนทบุรี และที่ทำการปกครองอำเภอบางใหญ่ จับกุมผู้แอบอ้างชื่อชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเรียกเงินจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่ลานจอดรถร้านดีเทคลอนตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
โดยจากการตรวจสอบพบว่า 1 ในผู้ถูกจับกุม คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว คือ ด.ต. ภูวเมศฐ์ หิรัญวงศ์วราดล และอีก 1 ราย คือ นายมานัส สุขสม ภายหลังการจับกุมตรวจสอบพบธนบัตรที่ใช้ในการล่อจับภายในรถยนต์ของนายมานัส สุขสม เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้รับทราบข้อมูลว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง มีพฤติการณ์ โทรหาผู้ประกอบการ ผับ บาร์ ทั่วกรุงเทพฯ
โดยทำทีเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เรียกเก็บค่าดูแล เป็นค่าเปิดตั๋วในการดูแลครั้งแรก 5,000 บาท และรายเดือน เดือนละ 4,000 บาท หรือ 3,000 บาท หากร้านใดไม่จ่ายเงิน ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจะจับกุมและสั่งปิดร้านนั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายหวาดกลัว และยอมจ่ายค่าดูแลให้แก่มิจฉาชีพกลุ่มนี้
“ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง (ศกปค.) ไม่นิ่งนอนใจ เร่งทำการสืบสวนทันทีหลังได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว โดยจากการสืบสวนจึงพบว่า บุคคลผู้โทรหาผู้ประกอบการนั้น ชื่อ “แป๊ะ” ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในสังกัดใด แต่ชอบอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จากการสืบสวนพบหลักฐานว่า นายแป๊ะ เคยอ้างตนเป็นตำรวจอาสา และตำรวจนอกราชการเพื่อระดมเงินจัดกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ และล่าสุดได้อ้างเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เพื่อเรียกรับเงินค่าดูแลจากผู้ประกอบการ ผับ บาร์ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นอกจากนี้ข้อมูลจากการสืบสวน พบว่า นายแป๊ะ ใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นเบอร์โทรศัพท์แม่ยายของตนเองไล่โทรหาร้าน ผับ บาร์ ต่าง ๆ และหมายเลขบัญชีธนาคารที่นายแป๊ะให้โอนเงินส่วยนั้น ยังเป็นเลขบัญชีของแม่ยายตนเอง เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่นายแป๊ะ ใช้ไล่โทรหาผู้ประกอบการ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ “นายแป๊ะ” หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ไม่ได้มาปรากฏตัวในที่เกิดเหตุ โดยขั้นตอนต่อไป ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง จะนำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ เพื่อดำเนินคดี และจะร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป” นายรณรงค์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ได้กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นการตอบคำถามต่อสังคมในรูปแบบการทำงานของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ที่ไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะรูปแบบใด รวมทั้งไม่รับเคลียร์ทุกกรณี เพื่อให้ผู้ประกอบการ สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ประกอบกิจการที่สุจริต มั่นใจได้ว่า หากท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมายในรูปแบบใด กรมการปกครอง ในนามชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ไม่สามารถจับกุมหรือสั่งปิดสถานถานประกอบการของท่านได้
เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งที่ได้มีการแจ้งอยู่เป็นระยะว่าชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองไม่รับเคลียร์กับร้านที่ผิดกฎหมายใด ๆ แต่ก็ยังปรากฏข่าวอยู่เสมอว่ามีผู้หลงเชื่อจ่ายเงินให้กับมิจฉาชีพ พร้อมย้ำเตือนเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน การกระทำเช่นนี้มีความผิดในหลายข้อหา และโทษสถานหนักของการเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนคือมีประหารชีวิต
นายรณรงค์ฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า “สำหรับผู้ประกอบการ สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หากมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแอบอ้างตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง รีดไถส่วยเป็นค่าดูแล สามารถแจ้งผ่านช่องทางหมายเลขโทรศัพท์ 1567 ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ตลอด 24 ชั่วโมง”
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวอาชญากรรมเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวอาชญากรรม
- ลงดาบ 2 ตำรวจเรียกเก็บส่วย สถานบันเทิง สั่งให้ออกจากราชการแล้ว
- เริ่มแล้ววันนี้! เปิดผับบาร์ สถานบันเทิง นายกฯย้ำปฎิบัติตามคำสั่งเคร่งครัด