ข่าวข่าวการเมือง

‘ประยุทธ์’ ปลื้มคนไทยพัฒนา สเปรย์โควิด สำเร็จ เตรียมผลิตสู่ตลาดปีนี้

รองโฆษกสำนักนายกเผย ประยุทธ์ ปลื้มคนไทยพัฒนา สเปรย์โควิด สำเร็จ เตรียมผลิตสู่ตลาดให้ประชาชนใช้ในปีนี้ ขณะที่วัคซีนไทยเตรียมขึ้น อย.

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ บริษัทไฮไบโอไซ จำกัด ที่ได้ร่วมมือพัฒนานวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด 19”

ซึ่งเป็นอีกนวัตกรรมจากคนไทยสามารถผลิตขึ้นใช้ได้เองในประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ที่มีมาตรฐานยอมรับในระดับสากล สำหรับสเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 คาดว่าจะสามารถผลิตออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมองค์การเภสัชกรรมที่ได้พัฒนาวัคซีนโควิด HXP-GPOVac ฝีมือคนไทย ซึ่งผ่านการทดลองในมนุษย์เฟส 1 และเฟส 2 แล้ว จากผลการพัฒนาสูตรวัคซีน HXP-GPOVac สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

โดยมีแผนจะนำวัคซีนตัวนี้ กลับไปทำการทดลองเฟส 2 อีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เมื่อสำเร็จได้ผลดี จะดำเนินการทดลองในเฟส 3 ต่อไป คาดว่า จะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้กลางปี 2566 ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้า วัคซีนโควิด “Chula Cov19” พัฒนาโดยศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย ผลการทบสอบพบว่ามีประสิทธิภาพสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเทียบเท่ากับวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการผลิตวัคซีนในโรงงานไทย เพื่อรอทดลองในคนระยะ 3 และคาดว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉินให้ได้ภายในสิ้นปีนี้

“นายกรัฐมนตรีระบุความสำเร็จดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทย ส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในระบบสุขภาพของประเทศ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เเม้ว่าไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านให้เป็นโรคประจำถิ่น การพัฒนาวัคซีนใช้เองในประเทศยังเป็นเรื่องจำเป็น นับเป็นความภาคภูมิใจของไทยเป็นอย่างมาก ที่การวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์มีความก้าวหน้า คู่ขนานไปกับการพัฒนาระบบสาธารณสุข ซึ่งทั่วโลกต่างชื่นชม จัดให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ ติดอันดับ ท็อปเท็นของโลก อันดับที่ 1 ในเอเชีย” นางสาวรัชดาฯ กล่าว

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button