รีวิว Love, Death + Robots Vol.3 ตอน Jibaro เมื่อดันทุรังในรักที่ไม่ใช่ ฝืนต่อไปก็มีแต่จะเจ็บ
รีวิว Love, Death + Robots Vol.3 ตอน Jibaro (ไม่สปอยล์) หลังจากที่ประสบความสำเร็จไปในซีซั่น 1 และ 2 กับสุดยอดแอนิเมชันจาก Original Netflix กับเรื่อง “Love, Death + Robots กลไก หัวใจ ดับสูญ” ที่ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์คลอดซีซั่น 3 ออกมาให้เราได้รับชมกันทาง Netflix ครบทั้ง 9 ตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในซีซั่นนี้ก็กลับมาพร้อมกับความอลังการงานสร้างทั้งในส่วนของโปรดักชันและเนื้อหาของซีรีส์แต่ละตอนแบบจัดหนักจัดเต็ม เรียกได้ว่ารีวิวทุกสำนักแทบจะเทคะแนนให้กับซีรีส์เรื่องนี้แบบ 10 10 10 กันเลยทีเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตอนปิดของซีรีส์ในชุดนี้ที่มีชื่อตอนว่า “Jibaro” เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับความโลภ ความอันตราย ของความสัมพันธ์ผ่านรูปแบบนิทานพื้นบ้าน ที่มีตัวละครหลักเป็นอัศวินหูหนวก กับนางพรายที่มีเสียงเป็นอาวุธ นอกจากนี้ยังได้ผู้กำกับมือดีอย่าง “Alberto Mielgo” ผู้กำกับ Love, Death + Robots Vol.1 ในตอน The Witness มากำกับให้อีกครั้งด้วยในตอนนี้
รีวิว Love, Death + Robots Vol.3 ตอน Jibaro เมื่อพลังแห่งความรัก ทำให้เราต่างเจ็บช้ำ
การบอกเล่าเรื่องราวความรัก ผ่านงานภาพสุดตระการตา
อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่โดดเด่นและดึงดูดสายตาของซีรีส์ในตอน Jibaro นั้นคงหนีไม่พ้นการผสมผสานงานระหว่างแอนิเมชันแบบ 2D และ 3D เข้าไว้ด้วยกัน ความเนียนกริบแบบไร้ข้อติติงของงาน Visual Art ที่ทำออกมาได้สมจริงจนผู้ชมไม่อาจละสายตาจากเรื่องนี้ไปได้แม้แต่วินาทีเดียว
ไหนจะเทคนิคการถ่ายทำแบบ Hand Held กล้องสั่นที่ช่วยเสริมความตึงเครียดให้กับแอนิเมชันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี การสร้างบรรยากาศที่ถูกปิดล้อมไปด้วยป่าและแมกไม้ บวกรวมกับมุมกล้องที่สั่นไหวอย่างรวดเร็วยิ่งสร้างความเหนื่อยล้าให้กับผู้ชมได้สมดังใจของผู้กำกับ Alberto Mielgo ประกอบกับการออกแบบทางเสียง ที่เล่นล้อเรื่องเสียงกับหูหนวย ตัดสลับกันได้โหดสุดมาก
ยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบดีไซน์ตัวละครให้มีการแต่งกายที่เต็มไปด้วยอาภรณ์สุดแวววาว วิบวับรับกับแสงตกกระทบที่ส่องบนพื้นน้ำ สร้างความสมจริงและความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมอย่างยิ่งว่า เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะนั้นมาไกลถึงขนาดนี้แล้วเชียวหรือ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จำเป็นจะต้องกล่าวถึงอย่างยิ่งนั้นคือการใช้ “เสียง” ในแอนิเมชันเรื่องนี้ งานภาพว่าตะลึงแล้ว งานเสียงนั้นตะลึงยิ่งกว่า เมื่อทั้งตอนไม่มีบทพูดใด ๆ ให้กับตัวละครเลย ยกเว้นเสียงกรีดร้องของตัวละครหลักอย่างนางพรายที่สอดแทรกด้วยดนตรีแนวอิเล็กโทรป๊อปที่เข้ากันดีกับกลิ่นอายของดนตรีพื้นบ้าน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็รวมตัวเข้ากันออกมาเป็นรสชาติของซีรีส์ในตอนนี้ที่กลมกล่อมสุด ๆ
Jibaro ตำนานพื้นบ้าน ความสัมพันธ์ และความชอกช้ำ
สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องตีความแต่ก็เข้าใจได้จากการบอกเล่าของซีรีส์ในตอนนี้ ก็คือความสัมพันธ์ที่ฝืนดันทุรังของทั้งสองฝ่าย เราไม่เพียงแต่ทำร้ายกันเองในความสัมพันธ์ แต่ที่สุดท้ายก็วนกลับมาที่ว่าความรักเองนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เราเจ็บช้ำได้มากที่สุด มากยิ่งกว่าคนที่เรารักเสียอีก
พลังอานุภาพของความรัก ไม่เกินจริงเลยกับคำกล่าวที่ว่า “ความรักทำให้เราตาบอด” หรือที่จริงแล้วเราอาจไม่ได้ตาบอด เพียงแต่เรายอมที่จะมองไม่เห็น เพื่อลิ้มลองความหอมหวานของสิ่งที่เรียกว่า “รัก” และแรกเริ่มเมื่อได้สัมผัสเรามักจะคิดว่า “ความขม” ของมันคือความแปลกใหม่ โดยที่หารู้ไม่เลยว่านั่นแหละคือรสชาติของความรวดร้าว ที่เกิดจากความสัมพันธ์อันไม่สามารถร่วมทางกันต่อไปได้
และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของความคิดเห็นต่อซีรีส์ยอดนิยมจากทาง Original Netflix ในเรื่อง Love, Death + Robots กลไก หัวใจ ดับสูญ กับตอน Jibaro หากใครที่ชื่นชอบซีรีส์ที่เต็มไปด้วยสัญญะให้ตีความ กับงานภาพสวย ๆ สุดจะอาร์ต บอกเลยว่าถ้าได้รับชมเรื่องนี้จะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน