ตำรวจ “สรุปไทม์ไลน์” เหตุการณ์ก่อนแตงโมตกเรือ คาดเวลาที่เสียชีวิต ไม่มีการเปลี่ยนเวลา
แถลงคดีแตงโม “สรุปไทม์ไลน์” เหตุการณ์ก่อนแตงโมตกเรือ คาดเวลาที่เสียชีวิต ตำรวจยืนยัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเวลาในมือถือ เพราะช่วงเวลาถ่ายภาพตรงกับ GPS เรือ
สรุปแถลงข่าวคดีแตงโม – วันนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ แถลงข่าวสรุปสำนวนคดีแตงโม ในส่วนของการตั้งข้อหา 5 คนบนเรือ และ กุนซือ ส่วนที่สองคือการเปิดคลิปวิดีไทม์ไลน์การเดินเรือสปีดโบ๊ท ก่อนแตงโมตกเรือจนกระทั่งเวลาคาดว่าจะตกเรือ
Thaiger ได้นั่งฟังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดคลิปสรุปสำนวนการสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ หรือ แตงโม นิดา ที่พลัดตกน้ำเสียชีวิต โดยจากคลิปได้สรุปไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ ดังนี้
ไทม์ไลน์ก่อนแตงโมตกเรือเสียชีวิต
เริ่มต้นจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. นายปอ ได้นัดกับ กระติก ผ่านไลน์ โดยนัดหมายพูดคุยในเพื่อนเก่า และเวลาประมาณ 19.00 น. กระติกได้ไลน์ไปหา แตงโม และระบุว่านายปอได้ชวนไปนั่งเรือจิบไวน์ ซึ่งทางแตงโมก็ได้ตกลง
โดยกระติกก็ได้ตอบกลับไปในช่วงเวลาประมาณ 19.59 ของวันเดียวกันว่า จะมีแนวร่วมไปด้วย 4 คน มี กระติก และ แตงโม ไปด้วย ส่วนอีกสองคนที่นัดไว้ ในวันจริงไม่ว่างเลยไม่ได้ไปร่วมนั่งเรือด้วย จากนั้นนายปอก็ได้ส่งภาพเรือที่เกิดเหตุมาให้กระติกดู
จากนั้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กระติกได้ส่งข้อความไปหาแซน โดยชักชวนเธอไปขึ้นเรือ ซึ่งในช่วงเย็นของวันที่ 23 ก.พ. กระติก ได้บอก ปอว่า แซน จะไปขึ้นเรือด้วย จากนั้นปอได้ส่งพิกัดเรือ NBC
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในวันเกิดเหตุ ในเวลาประมาณ 14.26 น. กระติกได้ขับรถไปรับ แตงโม ส่วนอีกฟากหนึ่งที่อู่เรือ NBC นายปอ ได้เดินทางมาที่อู่ ซึ่งเวลา 15.52 ทางแตงโมและกระติกได้ขับรถไปยังอู่เรือ โดยทั้งสองออกจากบ้านด้วยรถแตงโม
และเวลา 15.55 นายจ๊อบได้เดินทางมาถึงอู่ และสองนาทีถัดมาก็เป็น โรเบิร์ต ที่ขับมาถึงอู่เรือ จากนั้น 16.45 เป็นกระติกและแตงโม ก็มาถึงอู่เรือเช่นกัน โดยในขณะนั้นมีผู้ที่อยู่อู่เรือ 5 คัน โดยขาดเพียงแซนคนเดียวเท่านั้น
ต่อมาเวลา 16.49 จาก GPS แสดงให้เห็นว่าเรือมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ และเวลา 17.00 น. โทรศัพท์ของกระติกได้ถ่ายภาพนี้เอาไว้
จากนั้นเวลา 17.01 น. เรือได้เดินทางมาถึงจุดเติมน้ำมัน ซึ่งบนเรือนั้นแสดงให้เห็นว่ามีสมาชิกบนเรือห้าคน ได้แก่ ปอ โรเบิร์ต แตงโม กระติก และ จ็อบ และเมื่อเติมน้ำมันเสร็จสิ้นก็ขับกลับไปที่อู่เรือ NBC เพื่อรับ แซน เมื่อเวลา 17.53 โดยระหว่างรอเรือมารับ แซน ได้เซลฟี่ถ่ายของตนเองที่อู่เรือขณะนั่งรอ
และเวลา 17.24 เรือได้กลับมาถึงอู่ และนำแซนดี้ขึ้นเรือ ก่อนที่เรือจะมุ่งไปยังทางทิศเหนือ ขณะเวลา 17.46 มือถือของกระติกได้ถ่ายภาพนี้เอาไว้ ก่อนที่ในเวลา 18.11 จะได้ถ่ายภาพของแตงโมลงในเครื่องตนเอง
ก่อนที่เรือจะเทียบท่าที่ร้านอาหารเวลา 18.24 และเข้าไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้าน และเวลาประมาณ 19.57 ก็เช็คบิลค่าอาหาร ก่อนจะออกเดินทางด้วยเรือและมุ่งกลับสู่ทิศใต้ จากนั้นเวลา 21.23 เรือได้ผ่านกล้องวงจรปิดของท่าเรือพระนั่งเกล้า และ 21.33 น. เรือได้ผ่านกล้องวงจรปิดสะพานพระราม 5
ซึ่งในอีก 3 นาทีถัดมา เรือได้แล่นผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม 1 จากนั้นเวลา 21.54 น. เรือลำดังกล่าวก็ได้ผ่านท่าเรือบริเวณเทเวช 1 ซึ่งในจุดนี้ได้เกิดข้อสงสัยขึ้น โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า ในจังหวะนี้มีจังหวะคล้ายคนกระโดดหรือถูกโยนออกจากเรือ จนนำไปสู่การปรับแสงและสีเพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม
จากนั้นเวลาประมาณ 21.56 ซึ่ง กระติก และ แตงโม ได้ผ่านภาพ บริเวณหน้าเรือขณะที่เรือกำลังมุ่งหน้าไปยังสะพานพระราม 8 โดยมีคนตั้งข้อสังเกตว่ามีการปรับแต่งเวลา โดยตั้งข้อสังเกตจากเวลาของสะพานไฟที่ถูกปิดลงในช่วงเวลานั้น ซึ่งฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบตำแหน่งของภาพถ่าย และได้ทดสอบด้วยโทรศัพท์ชนิดเดียวกัน เวลาเดียวกัน และปรับความสว่าง จะพบว่าเป็นลักษณะเดียวกัน และเหตุผลสำคัญที่สุดที่ยืนยันว่าภาพนี้ไม่มีการเปลี่ยนเวลา เพราะหากดูตาม GPS จะพบว่าจุดพิกัดที่ถ่ายภาพตรงกัน จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการแก้ไขเวลา
ซึ่งหากภาพนี้สามารถยืนยันได้ว่าถ่ายขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวจริง ข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าเรือเทเวช ว่ามีคนกระโดดหรือถูกโยนออกจากเรือก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ แตงโม ที่ตกน้ำอย่างแน่นอน จากนั้นเวลา 22.01 น. เรือได้วกกลับ ซึ่งกระติกได้ถ่ายภาพของโรเบิร์ต และแสดงให้เห็นว่าภาพพื้นหลังของสะพานเป็นอีกมุมหนึ่งของสะพานพระราม 8
ซึ่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.06 น. ได้มีการถ่ายภาพกระติกไว้ โดยมุมของสะพานสอดคล้องกับภาพของโรเบิร์ตเมื่อซักครู่
โดยภาพของกระติกเป็นปรากฎภาพของแซนนั่งบริเวณท้ายเรือ ซึ่งช่วงเวลา 22.11 น. ขณะที่เรือกำลังมุ่งหน้ากลับอู่ NBC กระติกได้เรียกใช้บริการ U Drink, I Drive โดให้มารับที่อู่เรือ NBC โดยพิกัดปลายทางอยู่ที่บ้านของ แตงโม และช่วงเวลา 22.18 น. เรือได้ผ่านสะพานซังฮี้ และแสดงให้เห็นว่า แซนนั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ
จากนั้นเวลา 22.21. เรือได้ขับผ่านหลังรัฐสภา ซึ่งในจังหวะนี้ แตงโม ได้ตอบแชตจากอินสตาแกรม และเวลา 22.32. เรือได้ขับผ่านกล้องวงจรปิด กล้องที่คุณภาพสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ใช้โปรแกรมที่ทางกองพิสูจน์หลักฐานใช้เป็นมาตรฐาน ด้วยการปรับแสงภาพ ปรับความคมชัด และพบว่ามีคนบนเรือ 6 คน และมีคนนั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ
ต่อมา 22.34 น. กล้องวงจรปิดมุมที่ส่องมาด้านท่าเรือพิบูลล์สงคราม 1 ได้เห็นรายละเอียดที่สำคัญ โดยเริ่มจากเรือที่ผ่านเข้ามากล้องวงจรปิด ซึ่งจากแสงเงาทำให้แสดงให้เห็นว่ามีวัตถุบางอย่างบริเวณท้ายเรือ จากนั้นเวลาถัดมาเวลา 22.34 เรือได้ผ่านแสงไฟ และพบว่ามีลักษณะเงาคล้ายกับจุดที่แล้ว
จากนั้น 6 วินาทีถัดมา แสดงให้เห็นมุมของเรือเปลี่ยนทำให้วัตถุของเรือบดบังแสงไฟในลักษณะนี้
ซึ่งเมื่อเทียบกับเรือจริงแล้ว แสงไฟจะท้ายเรือจะอยู่ในบริเวณนี้
เวลาที่แตงโมตกเรือก่อนเสียชีวิต
และเมื่อเวลา 22.34.10 วัตถุดังกล่าวก็ได้หายไปจากเรือ (เวลานี้เป็นเวลาที่ตำรวจคาดว่าแตงโมตกเรือเสียชีวิต) ซึ่งในวินาทีถัดมาก็ได้เหมือนมีลักษณะเงาของคนที่ยืนขึ้น หลังจากนั้น 11 วินาทีถัดมา GPS ก็สามารถจับได้ว่าเรือลดความเร็วลงและเกิดการตีวนกลับอยู่ที่เดิม จากนั้นเมื่อผ่านบริเวณเดิมอีกครั้ง โดยในจังหวะนี้ได้ผ่านกล้องตัวเดิม และเมื่อตรวจสอบไม่พบว่ามีเงาเหมือนวัตถุรอบก่อน โดยเปรียบเทียบทั้งสองเหตุการณ์
โดยจากการตรวจสอบแสงไฟนั้น ยืนยันได้ชัดเจนว่าวัตถุดังกล่าวไม่ใช่เครื่องยนต์ท้ายเรือ เนื่องจากต้องห่างออกจากเรืออีกระยะหนึ่ง และจะไม่เห็นเครื่องยนต์มาบังแสงไฟในระดับนี้ และจุดที่วัตถุดังกล่าวหายไปอยู่ห่างจากจุดที่พบศพ แตงโม เพียง 100 เมตร ประกอบกับการดู GPS พบว่ามีการวนเรือ จึงทำให้เชื่อว่า แตงโม ตกเรือในจังหวะนี้
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลบนเรือ แซนได้ส่งข้อความช่วยเหลือกับเพื่อน โดยโลเคชั่นที่ทางแซนส่งตรงกับจุดเกิดเหตุ เช่นเดียวกันคนบนเรือคนอื่นๆที่ได้โทรขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัย และคนรู้จักมากมาย
จากนั้นเวลา 23.45 เรือได้ขับผ่านพิบูลย์สงคราม 1 ซึ่งเป็นภาพที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวล่วงเลยเวลาเกิดเหตุไปหลายชั่วโมงแล้ว จากนั้นเวลา 23.48 เรือได้เทียบท่าพิบูลย์สงคราม กระติกและโรเบิร์ตได้ลงจากเรือ และถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิดไว้ได้
จากนั้นเวลา 12.44 น. โรเบริ์ตและปอติดต่อกัน GPS ได้หยุดค้นหาและได้มุ่งหน้ากลับอู่ NBC และเวลาตี 1.03 ทั้งคู่ได้กลับมาถึงอู่เรือด้วยการนั่งรถจากแอป แกร็บ และเวลาตี 1.06 น. เรือก็กลับมาถึงอู่
ซึ่งในช่วงเวลา 1.53. น. มีผู้แนะนำคนหนึ่งได้ส่งข้อความหาโรเบิร์ต บอกว่าอย่าเพิ่งอย่าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและคุยกับตนเพื่อจะได้จัดหาทีมทนายดูแลให้ หลังจากแยกย้ายกันแล้ว ทั้ง 5 ได้พบทีมทนายและร่วมรับประทานอาหารจนถึงเวลา 15.00 น. และเวลา 17.07 ก็ได้เดินทางไปร้านอาหารอีกแห่ง จังหวัดนนทบุรี และพบกับทนายชื่อดัง โดยอยู่ในร้านจนถึง 19.17. และเข้าพบเจ้าหน้าที่เวลา 20.00 น.