‘ซี ศิวัฒน์’ กล่าวอาลัย ‘แตงโม’ ทำให้รู้ว่าที่เป็นอยู่คือ รักที่สุจริต หรือ รักที่มีแต่ได้
‘ซี ศิวัฒน์’ กล่าวอาลัย ‘แตงโม’ เผยมุมมองของความรักจากแตงโม ทำให้รู้ว่าที่เป็นอยู่คือ รักที่สุจริต หรือ รักที่มีแต่ได้
พิธีไว้อาลัยนักแสดงสาว แตงโม นิดา ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ (13 มี.ค.65) เป็นวันที่สาม ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ (Liberty Church Bangkok) แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เพื่อนสนิทของแตงโมอย่าง ‘ซี ศิวัฒน์ ‘ ซึ่งเติบโตในวงการบันเทิงมาด้วยกัน ก็ได้ขึ้นมากล่าวคำอาลัย โดยเผยว่า จากใจ ตนเองนั้นไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน และไม่ได้คิดว่าจะมีโอกาสได้มากล่าวคำไว้อาลัยกับเพื่อนที่เราสนิทกันมาก่อนจริง ๆ
ไม่น่าใช้คำว่าเพื่อน เพราะตนเองรู้สึกว่าแตงโมเป็นเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง อย่างที่พี่อ๊อดบอกว่าเราสองคนเติบโตมาด้วยกัน เข้าวงการพร้อมกัน มีผู้จัดการคนแรกคนเดียวกัน รับรางวัลพร้อมกัน มีชื่อเสียงโด่งดังพร้อมกัน เราเป็นคู่กัน เรามีเรื่องราวสนุกสนานผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน
ที่ต้องบอกว่าเป็นครอบครัว เพราะเราสองคนเหมือนเด็กอ่อนที่เข้าวงการ โดยที่ยังไม่ได้เข้าใจถึงความรับผิดชอบใด ๆ และเราก็เรียนรู้และเติบโตพร้อม ๆ กัน เราเจอพี่ ๆ เรามีเรื่องราวสนุกสนานและรอยยิ้มด้วยกันเสมอ นี่คือภาพจำของผู้หญิงคนนี้
วันนี้ตนเองมีความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งดีใจและเสียใจไปพร้อม ๆ กัน ดีใจที่วันนี้งานสวยงามเหลือเกิน ทุกอย่างที่ เอ และ อั้ม ทำให้สวยงามมากจริง ๆ ดีใจที่วันนี้ทุก ๆ คนรักแตงโมเหลือเกิน แต่เจ็บปวดใจที่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน
ผู้หญิงคนนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองเสมอ ตอนที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน เพราะสมัยก่อนตอนที่ตนเองยังเป็นวัยรุ่น ทำงานได้รับเงินประสาวัยรุ่น สิ่งที่จะทำก็คือหาซื้อของอะไรให้กับตัวเอง
แต่แรงบันดาลใจของแตงโม เหมือนตำราชีวิตเล่นใหญ่เล่มหนึ่ง สิ่งที่เธอทำคือไม่ได้เอาเงินนั้นไปใช้ส่วนตัวก่อน เธอเอาเงินนั้นไปให้บุพการีของเธอก่อน นั่นคือสิ่งที่เธอทำ
แตงโมบอกตนเองว่าเธอไม่จำเป็นต้องใช้อะไร แตงโมไม่ใช่คนติดแบรนด์เนม แตงโมใช้อะไรก็ได้ ทำให้ตนเองได้เห็นว่านี่ แตงโมเป็นแบบนี้ตั้งแต่ยังไม่ดัง เมื่อได้มีโอกาสเจอคุณแม่ แตงโมก็ทำแบบนี้กับคุณแม่เช่นเดียวกัน นี่คือตำราชีวิตหน้าหนึ่ง
และอีกสิ่งหนึ่ง แตงโม เป็นคนที่สุจริตต่อความรู้สึกตนเอง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น ไม่มีพิษไม่มีภัย ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม จะรวยจะจน สนิทหรือไม่ก็ตาม แตงโม ก็จะรักเขา จนตนเองถามว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ไม่กลัวคนอื่นตัดสินหรือว่าหรอ แต่แตงโมก็ได้ตอบว่า
“ไม่เป็นไร เธอรู้ดีว่าเธอสุจริตใจ คนอื่นไม่รู้ไม่เป็นไร แต่เรารู้แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าทุกคำพูดของแตงโม มันต้องกลับมามองเรื่องราวชีวิตตนเองจริง ๆ นี่เป็นหนังสือเล่มใหญ่ แม้ว่าจะเป็นหน้าสุดท้าย แต่วันนี้ ทุกชีวิต ทุกลมหายใจที่แตงโมมี มันสร้างความเปลี่ยนแปลง ทำให้เรามองว่ารักของเราในวันนี้มันเป็นแบบไหน เป็นรักที่สุจริต หรือรักที่มีแต่ได้
เพราะฉะนั้นไม่ว่าแตงโมจะอยู่ที่ไหน วันนี้มีเพื่อนนักแสดงเบญจาคีตาความรัก อย่างที่บอกเราเติบโตมาด้วยกัน เราเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน เราเป็นครอบครัว ตนเองไม่ใช่คริสต์ แต่คิดว่านี่คงเป็นประสงค์ของพระเจ้าที่แตงโมมาอยู่บนโลกใบนี้ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมครั้งยิ่งใหญ่
และหลังจากนี้ วันนี้ทุกคน ไม่ใช่แค่แตงโมหรือคนรอบข้างที่เคยรู้จัก วันนี้คนประเทศนี้ได้เห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้สวยงามแค่ไหน ไม่ว่าแตงโมจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขออธิษฐานจากหัวใจ ให้แตงโมได้รับรู้ว่าทุกคนรักและคิดถึงเสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่แตงโมสร้างให้พวกเราได้จดจำ จะคงอยู่ตลอดไป จนกว่าเราจะได้เจอกัน
ก่อนจะกล่าวขอบคุณและเดินลงจากเวทีไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม