ย้อนโพสต์คุณพ่อ ‘แตงโม’ ทุ่มชีวิตเลี้ยงลูก เผย ชีวิตเรามีกันสองคนจริง ๆ อ่านแล้วน้ำตาไหล
ย้อนโพสต์คุณพ่อ ‘แตงโม’ ทุ่มชีวิตเลี้ยงลูก เผย ชีวิตเรามีกันสองคนจริง ๆ อ่านแล้วน้ำตาไหล ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพรัว ๆ
ยังคงเป็นเรื่องราวที่เหล่าโซเชียลพูดถึงกันมานานกว่าสัปดาห์แล้ว สำหรับเรื่องราวของนักแสดงสาว แตงโม นิดา ที่ล่าสุดโลกโซเชียลได้ออกมาแชร์ข้อความของ คุณพ่อโสภณ ซึ่งเป็นคุณพ่อของ แตงโม ที่เคยได้เขียนข้อความเล่าเรื่องราวกับลูกสาวเมื่อหลายปีก่อนจะป่วยและจากไปอย่างสงบ
โดยข้อความที่คุณพ่อโสภณเขียนไว้ ทำให้หลาย ๆ คนที่ได้อ่าน ซึ้งจนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว คุณพ่อโสภณเล่าว่าตนเองเลี้ยงลูกคนเดียวมาตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากหย่ากับคุณแม่ตอน แตงโม อายุเพียง 3 ขวบ จึงใช้ชีวิตคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกสาวให้ดีที่สุด เพราะมีกันอยู่สองคนแล้ว
“9 ก.ค. 58 ครอบครัวที่มีกันสองคน ที่บอกว่าครอบครัวเรามีกันเพียงสองคน เพราะได้หย่ากับคุณแม่เขาตั้งแต่น้องโมมีอายุประมาณสามขวบ หลังจากนั้นสองคนพ่อลูกก็ตระเวณอาศัยเช่าอาพาร์ทเมนต์อยู่บ้าง เช่าทาวเฮาส์หลังรามอยู่บ้าง ตามประสาพ่อลูกลำพังสองคน
ชีวิตที่ผ่านมาทุลักทุเลพอสมควร ด้วยคนเป็นพ่อต้องออกไปทำงานตามเวลาปกติ กลับบ้านเย็นบ้างค่ำบ้างแล้วแต่งานในความรับผิดชอบจะแล้วเสร็จ ซึ่งแปลว่าระหว่างวันน้องโมต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง อาศัยเพื่อนบ้านมาเป็นเพื่อนบ้าง ไม่มีใครเป็นเพื่อนบ้าง ด้วยความรักที่มีให้แก่กันเกินร้อยเราก็ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากเหล่านั้นมาได้ด้วยดีพอสมควร
ด้วยสภาพข้อเท็จจริงดังกล่าว ผมมีความสามารถเลี้ยงลูกได้ดีเพียงแค่นี้ครับ ที่เหลือเป็นพระพรจากพระเจ้าที่ให้น้องโมแข็งแกร่งและเป็นเด็กมีความคิดดี จึงมีวันนี้เป็น แตงโม ภัทรธิดา ที่ท่านทั้งหลายได้รู้จัก ก็โตจากเด็กที่ไม่เคยได้รับการถักเปียไปโรงเรียนจากคุณพ่อ เพราะพ่อถักไม่เป็นจนทุกวันนี้”
“11 ก.ค. 58 มารู้ทีหลัง ความจริงจากการเลี้ยงลูกที่ยังเล็กๆ อยู่โดยมีคุณพ่อเพียงคนเดียวในชีวิตเขา เป็นทุกอย่างของเขา เราจำเป็นจะต้องพูดความจริงกับเขาทุกอย่างโดยไม่ปิดบังและต้องพยายามให้เขาเข้าใจมีเหตุมีผลอย่างมากที่สุด
การที่คุณพ่อต้องออกไปทำงานแต่เช้ากลับเย็นโดยไม่ได้อยู่กับเขา ก็พยายามอธิบายให้ฟังจะว่าเราต้องออกไปทำงานเพื่อได้เงินเดือนมาเป็นค่าเล่าเรียน ค่าขนมของเขา เป็นค่าเช่าบ้านที่ได้อาศัยอยู่กัน ซึ่งดูเหมือนเขาจะเข้าใจ
เพิ่งมาทราบจากพี่จิ่งเพื่อนบ้านที่แสนดีที่คอยมาเป็นเพื่อนเล่น คอยหาข้าวหาปลาให้น้องโมตอนคุณพ่อยังกลับไม่ถึงบ้านเมื่อไม่กี่ปีมานี้ว่า หลายครั้งทีเดียวในตอนเช้าที่คุณพ่อขับรถออกบ้านไปทำงาน น้องโมจะวิ่งร้องไห้ตามรถคุณพ่อไปจนถึงปากซอย ต้องรีบวิ่งตามไปอุ้มมาและไม่บอกให้คุณพ่อทราบ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใจไปทำงาน เพิ่งมาเล่าให้ฟังเร็วๆ นี้ครับ ชีวิตเรามีกันสองคนจริงๆ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม