ครม. เคาะ เพิ่มวันลาคลอด รับค่าจ้าง 50% ส่วนพ่อลาดูลูกได้ 15 วัน
ที่ประชุม ครม.มติ ให้ เพิ่มวันลาคลอด จากเดิม 8 วันเป็น 98 วัน พร้อมรับเงินเดือนครึ่งหนึ่ง ขณะที่ผู้เป็นพ่อสามารถลาดูลูกได้ 15 วัน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างมาตรการสนับสนุนสตรีให้เป็นพลังสำคัญทางเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ เพื่อเป็นมาตรการคุ้มครอง สนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้ผู้หญิงสามารถเข้ามามีบทบาททางด้านเศรษฐกิจ ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ชายในการเลี้ยงดูบุตร สร้างกลไกการพัฒนาเด็ก เพื่อลดภาระให้กับผู้หญิงที่ทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญและอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ที่ไทยเข้าร่วมเป็นรัฐภาคี
น.ส.รัชดากล่าวว่า มาตรการดังกล่าวครอบคลุม 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มแรงงานหญิงทั้งในระบบและนอกระบบ จำนวน 17,366,400 คน กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยว จำนวน 1,061,082 คน และกลุ่มผู้หญิงสูงอายุที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็ก จำนวน 379,347 คน
โดยจะมี 3 ส่วนหลัก คือ 1.จัดบริการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ให้ขยายบริการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือสถานรับเลี้ยงเด็กให้รับอายุ 0-3 ปี และขยายเวลาเปิด-ปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือสถานรับเลี้ยงเด็กให้สอดคล้องกับเวลาทำงานของผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่
2.ส่งเสริมการลาของสามี ที่เป็นข้าราชการชาย ช่วยภรรยาดูแลบุตรหลังคลอด โดยให้มีสิทธิลาได้ 15 วันทำการ เป็นช่วงๆ ไม่ติดต่อกันจนครบวันลา จากเดิมที่ให้ลาครั้งหนึ่งติดต่อกันได้ ไม่เกิน 15 วันทำการ
และ 3.ขยายวันลาคลอดของแม่ ที่เป็นข้าราชการหญิง ซึ่งระเบียบเดิมสามารถลาคลอดบุตรได้ไม่เกิน 90 วัน และหากประสงค์ลากิจเพื่อเลี้ยงดูบุตร ให้มีสิทธิลาต่อเนื่องจากการลาคลอดบุตรได้ไม่เกิน 150 วันทำการ โดยไม่ได้รับเงินเดือน แต่มาตรการใหม่สามารถลาคลอดบุตรได้ 98 วัน (เพิ่มขึ้นจากเดิม 8 วัน) โดยได้รับค่าจ้าง และสามารถลาเพิ่มได้อีกไม่เกิน 90 วัน โดยได้รับเงินเดือนร้อยละ 50 ของเงินเดือน รวมวันลาคลอดทั้งสิ้น 188 วัน หรือประมาณ 6 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่องค์การอนามัยโลกและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติระบุว่า ควรให้บุตรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด
น.ส.รัชดากล่าวว่า โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากมาตรการนี้ คือ ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงด้านการจ้างงาน ทำให้เกิดนโยบายที่มีลักษณะเป็นมิตรกับผู้หญิง สร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ และส่งเสริมให้สามีมีส่วนร่วมในการดูแลบุตร รวมถึงปรับเปลี่ยนจำนวนวันลาคลอดของข้าราชการให้เท่ากับภาคเอกชนและสนับสนุนนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลกที่ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน
ทั้งนี้ ครม. ให้กระทรวง พม.รับข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาหาข้อสรุปที่ชัดเจน ก่อนเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและหน่วยงานกลางบริหารทรัพยากรบุคคลในส่วนราชการต่างๆ ดำเนินการปรับแก้ระเบียบต่อไป