แพ็กเกจใหม่แก๊งค้ายา ผสมยาอีใส่ซองครีมเทียม – ซองกาแฟสำเร็จรูป
เตือนคอกาแฟสำเร็จรูปต้องระวัง หลังกระแสวัยรุ่นใน TikTok สงสัยกาแฟกินแล้วเมา ล่าสุดเพจดังแฉ ฃที่แท้ เป็นยาอีผสมมาในซองกาแฟสำเร็จรูป ก่อนหน้านั้นใส่ซองครีมเทียม
วันนี้ (2 พ.ย.64) เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ออกมาโพสต์เตือนว่า ได้มีกลุ่มวัยรุ่นในแอปพลิเคชั่น TikTok นำซองกาแฟสำเร็จรูปมาผสมกิน แล้วทำท่าเคลิบเคลิ้ม คล้ายอาการมึกเมา จนมีคนสนใจเข้าไปสอบถาม “กาแฟอะไร” ถ้าอยากรู้จ่ายมาสองพัน
จากนั้นทางเพจเฉลยว่า กาแฟที่วัยรุ่นถามถึงนั้น คือ “ยาอีที่แอบผสมมาในซองกาแฟสำเร็จรูป”
โดยก่อนหน้านี้ ทางเพจก็ได้ระบุพร้อมแนบลิงก์ข่าวที่ได้มีการจับกุมหนุ่ม วัย 36 ปี รายหนึ่ง ได้ที่จังหวัดหนองคาย หลังจากลักลอบขนยาเสพติดมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งในนั้นมียาอีชนิดผงบรรจุในซองครีมเทียม 22 ซอง รวมอยู่ด้วย
พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จ.หนองคาย หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขนยาเสพติดที่หนองคาย ให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ยาเสพติดตามแนวชายแดนด้าน จ.หนองคาย โดยระบุว่า ปัจจุบันยังน่าเป็นห่วง โดยแก๊งค้ายาเสพติดมีความพยายามหาแพ็กเก็จบรรจุยาเสพติดแบบใหม่มาเรื่อย ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะติดตามผู้ร่วมขบวนการและขยายผลการจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับยาอี (Ecstasy) หรือยาเลิฟ จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ยาอี (ecstasy) เป็นสารสังเคราะห์ ที่ออกฤทธิ์ทั้งกระตุ้นประสาท และหลอนประสาท มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ 3,4 methylenedioxy methamphetamine หรือ mdma
ส่วนยาเลิฟ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า 3,4-methylenedioxy amphetamine หรือ mda ซึ่งมีสูตรโครงสร้างคล้ายกับ เมทแอมเฟตามีน หรือ “ยาบ้า” แต่มีฤทธิ์ที่รุนแรงกว่าประมาณ 10 เท่า โดยออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท และ ทำลายเซลล์สมองที่เกี่ยวข้องกับความคิดและความจำเช่นเดียวกัน
สำหรับความผิดในกรณีมีไว้ครอบครอง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี 1 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท(หากเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 20 กรัม ขึ้นไปถือว่าเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย
กรณี เสพ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันบาท ถึง 1 แสนบาท