ข่าวข่าวอาชญากรรม

ศาลสั่งจำคุกลูกสาว อาม่าฮวย 12 ปี คดีถอนเงิน 24 ล้านบาท

ศาลลงโทษจำคุก 12 ปี ลูกสาวลักทรัพย์ อาม่าฮวย ผู้เป็นแม่แท้ๆ ขณะนอนป่วย กว่า 24 ล้านบาท พฤติการณ์ร้ายแรงไม่รอการลงโทษ

วันที่ 17 ส.ค.64 ที่ศาลอาญาพระโขนง ศาลอ่านคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำ อ.1668/2563 (คดีหมายเลขแดง อ.942/2564) ที่ นางฮวย ศรีวิรัตน์ มารดา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ จำเลย ลูกสาวเป็นจำเลย คดีลักทรัพย์

คดีนี้สืบเนื่องจาก นางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 82 ปี ถูก นางมาวดี ศรีวิรัตน์ อายุ 53 ปี บุตรสาวแท้ๆ ทยอยถอนเงินในบัญชี เงินฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสวนหลวง กับสาขาถนนศรีนครินทร์ รวม 2 บัญชี เมื่อระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ถึงมกราคม 2559 โดยจำเลยได้ให้โจทก์ลงลายมือชื่อในใบถอนเงินในขณะที่โจทก์มีสติปัญญาไม่สมบูรณ์

ถอนเงินวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 57 จำนวน 12 ล้านบาท

วันที่ 18 มีนาคม 57 จำนวน 2 ล้านบาท

วันที่ 6 พฤศจิกายน 57 อีก 1 ล้านบาท

วันที่ 18 มกราคม 59 อีก 2,257,400 บาท รวม 24,757,400 บาท ขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมาย

โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้จำคุก 6 กระทงๆ ละ 2 ปี รวมจำคุก 12 ปี

เมื่อพิเคราะห์พฤติกรรมแห่งคดีแล้ว การกระทำความผิดของจำเลยเป็นการกระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุพการีโดยใช้โอกาสที่จำเลยเป็นผู้ดูแลระหว่างโจทก์เจ็บป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อีกทั้งเงินที่จำเลยลักไปเป็นเงินจำนวนสูงมากนับเป็นเรื่องร้ายแรง

ดังนั้นแม้ปรากฏว่าจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณีก็ไม่เป็นเหตุให้รอการลงโทษ ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ศาลพิเคราะห์แล้ว จำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาหลักประกัน 1,695,000 บาท โดยใช้ที่ดินพร้อมเงินสดเป็นหลักประกัน

นอกจากนี้ยังมีอีกคดีที่ศาลยังไม่ตัดสิน คือเลขคดีดำที่3228/62 อีก 250 ล้านบาท คดีอยู่ระหว่างพิจารณาคดี

อ้างอิงข้อมูล : sanook.com

ขอบคุณภาพ : ข่าวบ้านเรา, Wealth 24Hrs

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button