กระทรวงพาณิชย์สั่งคุมเข้ม ราคาชุดตรวจ ATK เหมาะสมราคาตลาด 250-300 บาท ฝ่าฝืนเจอคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้ออกมาแถลงถึงผลการประชุมประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า มติที่ประชุม กกร.ให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแล กำหนดแนวทาง และติดตาม ชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK ) ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
พร้อมมีกรรมการจากกรมการค้าภายใน องค์การอาหารและยา(อย.) สำนักงานนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีการประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางและราคาจำหน่ายที่เหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบการค้ากำไรเกินควร ตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 29 ที่มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569
และเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสอบ พบว่าดำเนินคดีกับผู้ค้ากำไรเกินควรผ่าน 2 แพลตฟอร์มออนไลน์ ในผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร 3 ยี่ห้อ รวม 10 ราย ได้แก่ จำนวน 8 ราย มีการนำยี่ห้ออภัยภูเบศร บรรจุ 60 แคปซูล ที่ผู้ผลิตแจ้งราคาแนะนำกับกรมการค้าภายในไว้ 80 บาท แต่ขายในราคา 345-450 บาท เป็นการค้ากำไรเกินควร 336-463%
อีก 1 รายจำหน่ายยี่ห้อใบห่อ บรรจุ 70 เม็ดต่อขวด ที่ผู้ผลิตแจ้งราคาไว้ 25 บาท แต่ขายในราคา 119 บาท เป็นการค้ากำไรเกินควร 376% และอีก 1 ราย จำหน่ายยี่ห้อไฟโตแคร์ ขนาดบรรจุ 100 เม็ด/ขวด ราคาที่แจ้งไว้ 180 บาท แต่ขาย 490 บาท สูงกว่ากำหนด172% นอกจากนี้ ได้จับกุมร้านขายยา บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1 ราย จำหน่ายชุดตรวจ ATK สูงกว่าที่ผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าแจ้งไว้กับกรมการค้าภายใน 29% โดยขายราคา 450 บาท จากราคาแนะนำ 350 บาท
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากนี้คณะอนุกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งตามมติ กกร.ก็จะประชุมหารือเพื่อกำหนดราคาจำหน่ายชุด ATK ที่เหมาะสมโดยเร็ว และนำขึ้นเว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจก่อนซื้อ
โดยจะพิจารณาจากต้นทุนราคาโครงสร้างที่ผู้นำเข้าและจำหน่ายแจ้งรายละเอียดต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้กับกรมการค้าภายใน ที่ปัจจุบันมี 31 รายรวม 34 ยี่ห้อ ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีวัตถุดิบ และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้น การขึ้นเว็บไซต์จะแยกเป็นยี่ห้อให้ชัดเจน คาดว่าจะเริ่มในสัปดาห์หน้า
“กรมการค้าภายในได้รายงานว่า มีผู้นำเข้าแจ้งโครงสร้างต้นทุนแล้ว 10 ราย และในจำนวนนี้มีสินค้านำเข้าและวางขายตามร้านขายยาแล้ว 9 ราย และจากหารือเบื้องต้นพบว่า ราคาจำหน่ายที่ผู้นำเข้าแจ้งเป็นราคาแนะนำขายปลีกอยู่ระหว่าง 250-350 บาท ดังนั้น หากประชาชนซื้อในราคาที่สูงกว่านี้ ก็ให้แจ้งสายด่วน 1569 หรือพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อออกตรวจสอบและหากพบการกระทำผิดก็จะส่งดำเนินการทันที” นายบุณยฤทธิ์ กล่าว