ประยุทธ์ ถก สุพัฒนพงษ์ วางแผนปลดหนี้ให้ประชาชนในหลายกลุ่ม
ประยุทธ์ หารือ สุพัฒนพงษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน วางแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินให้ภาคประชาชนในหลายกลุ่ม อาทิ หนี้ กยศ. หนี้ครู/ข้าราชการ
วันนี้ (14 มิ.ย.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปรึกษา สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ประชาชนในหลายกลุ่ม ประกอบด้วย
• หนี้ กยศ. 3.6 ล้านคน ผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน
• หนี้ครู/ข้าราชการ 2.8 ล้านบัญชี
• หนี้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ 6.5 ล้านบัญชี
• หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 49.9 ล้านบัญชี
• ปัญหาหนี้สินอื่นๆ ของประชาชน 51.2 ล้านบัญชี
ที่ประชุมเสนอ 3 แนวทางแก้ไขที่ต้องทำควบคู่กัน คือ การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน การกำกับดูแลเจ้าหนี้ให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม และการปรับโครงสร้างหนี้และการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน โดยมีทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว
มาตรการระยะสั้น
• ไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สินเพื่อลดการดำเนินคดีกับประชาชน
• ลดภาระดอกเบี้ยของประชาชน ทั้งในส่วนสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อ PICO และ NANO สำหรับประชาชน ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครูและข้าราชการ รวมถึงสหกรณ์ ปรับรูปแบบการชำระหนี้ รวมถึงปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่จำเป็น
• ยกระดับการกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คุ้มครองความเป็นธรรมให้ประชาชนที่เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ธปท. ทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยและการกำกับดูแลบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียน
• กำกับดูแลไม่ให้การบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน/สหกรณ์สร้างภาระแก่ผู้กู้จนเกินสมควร
• เพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs เช่น จัดให้มี softloan สำหรับ SME ที่เป็น NPLs เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ การเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและโรงรับจำนอง
มาตรการระยะยาว ต้องทำให้เกิดสภาพแวดล้อมของการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย และมีการคุมยอดวงเงินกู้ที่เหมาะสม
นอกจากนี้เตรียมออกมาตรการเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย เรื่องที่อยู่อาศัย และค่าเดินทางระบบขนส่งมวลชนในราคาถูก เพื่อช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่ และ คนเกษียณที่มีภาระหนี้สิน
โดยคาดว่าประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ มีทั้ง
1. มีเงินเหลือใช้จ่ายมากขึ้นจากภาระหนี้ที่ดอกเบี้ยลดลงได้ 2-3% ต่อปี
2. ลดปัญหาการสร้างหนี้เกินตัวลงได้ทันที
3. เพิ่มโอกาสทางสังคมและลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นรูปธรรม
4. ใช้การจัดการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐมาแก้ไขปัญหารากแก้วโดยใช้งบประมาณรัฐน้อยที่สุด
ทั้งนี้แนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนศึกษาหามาตรการเพื่อดำเนินการ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี สุพัฒนพงศ์ฯ รับผิดชอบต่อไป