ข่าวเศรษฐกิจ

กษ. เผย ยอดส่งออก ทุเรียน จำนวน 25 ตัน จากการขายเพียงแค่ 45 นาที

กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ (กษ.) ได้เปิดเผยถึง ยอดส่งออก ทุเรียน ที่สามารถทำได้ถึงจำนวน 25 ตัน จากการขายผ่านทางออนไลน์ในเวลาเพียงแค่ 45 นาที

ในวันนี้ (10 พ.ค. 2564) นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่รายงานจากทาง กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ที่ได้รายงานว่าสามารถทำ ยอดส่งออก ทุเรียน จำนวน 25 ตัน ผ่านการขายทางออนไลน์ในเวลาแค่ 45 นาที

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่ 2 ภายใน 2 สัปดาห์ในการส่งออกทุเรียนทางเครื่องบินล็อตที่สองไปจีนจำนวน 25 ตัน (11,200 ลูก)

สู่เมืองซีอานเมืองเอกของมณฑลส่านซีในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ด้วยกลยุทธ์ใหม่ระบบสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre order platform) เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมาโดยใช้เวลาขายออนไลน์เพียง 45 นาที

ก่อนหน้านี้ได้ทดลองขายด้วยแพลตฟอร์มใหม่เป็นครั้งแรก 20 ตัน ใช้เวลา 9 ชั่วโมงก็ตื่นเต้นกันมากว่า ขายไม่ถึงวันได้เกือบหมื่นลูกเต็มลำเครื่องบินและขนขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิส่งไปยังเมืองเซินเจิ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา

แต่ล่าสุดขายไม่ถึงชั่วโมงเต็มลำ 25 ตัน นับเป็นครั้งที่ 2 ของการจำหน่ายทุเรียนผ่านระบบสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre-Order platform) ไปประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของผลไม้ไทย

โดยครั้งนี้เป็นการเปิดตลาดตอนในของจีนคือมณฑลส่านซีในภาคตะวันตกเฉียงเหนือด้วยแพลตฟอร์มใหม่บนความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ บริษัทเอกชน และสหกรณ์ผลไม้ เช่น สหกรณ์เมืองขลุง จังหวัดจันทบุรี

และเป็นการสร้างแบรนด์ทุเรียนไทยในระดับสหกรณ์ผลไม้ (Cooperative Farm based Branding) ตามแนวทางเกษตรสร้างสรรค์ (Creative Agriculture) ต่อไปเกษตรกรชาวสวนทุเรียนและสหกรณ์จะสามารถขายได้ราคาสูงขึ้น

สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวเมืองซีอานและผู้ประกอบการจีนที่จะได้ลิ้มรสทุเรียนคุณภาพสดจากสวนทุเรียนเมืองจันทบุรี

 

แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล

สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button