รวบจับ ‘หลงจู๊สมชาย’ คดีสั่งฆ่าวินถ่ายรูปบ่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าจับกุม ‘หลงจู๊สมชาย’ ผู้ต้องหาตามหมายจับเล่นพนัน และ ฟอกเงิน รวมถึงเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าวิน จยย.
หลงจู๊สมชาย – ตำรวจกองบังคับการปราบปราบ ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 21 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ชลบุรี และ กรุงเทพมหานคร เพื่อจับกุมตัวนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ “หลงจู๊ชาย” อายุ 56 ปี
ในฐานะผู้ต้องหาในคดีบ่อนการพนัน จ.ระยอง หรือบ่อนโควิด ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เพื่อจับกุมในคดีใหม่ ตามหมายจับศาลอาญาในคดี “จ้างวานฆ่า” พร้อมกับกลุ่มเครือญาติและลูกน้อง ในคดี “ร่วมกันฟอกเงิน” ที่ได้มาจากธุรกิจบ่อนพนัน
โดย บ้านพักหรูของ นายสมชาย กลางเมืองระยอง หลังเดียวกับที่บุกจับหลงจู๊สมชายก่อนนี้ ทันทีที่เจ้าหน้าทีไปถึงได้แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วน พร้อมกระจายกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อป้องกันการหลบหนีรอบทิศทาง ก่อนกดกริ่งประตูหน้าบ้านแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น แต่ผู้ที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวไม่มีใครยอมออกมาเปิดประตู
ตำรวจใช้บันไดปีนรั้วเข้าไป พบตัวนายสมชาย และ นายธนา จุติกิติ์เดชา อายุ 26 ปี ลูกชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา จัดให้มีการเล่นพนัน และ ร่วมกันฟอกเงิน อยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าวจึงแสดงหมายค้นและหมายจับให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับทราบ พร้อมกับทำควบคุมตัวจากนั้นจึงเข้าตรวจค้นภายในบ้าน
การจับกุมครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับเหตุประกบยิง นายประทุม สะอาดนัก อายุ 47 ปี ที่ประกอบอาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้าง ส่งผลให้นายประทุมเสียชีวิต เมื่อช่วงวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ให้ปากคำว่ามีความบาดหมางกับผู้ตาย แต่ ทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ปักใจเชื่อจึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ เพราะเชื่อว่าปมสังหารที่แท้จริงน่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ตายไปมีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับเรื่องการพนัน
ซึ่ง ประทุม ผู้ตาย ได้แอบเข้าไปถ่ายรูปสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ซึ่งมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ทำให้กลุ่มนายทุนเจ้าของบ่อนไม่พอใจ สั่งการให้ผู้ดูแลบ่อน จัดหามือปืนมาก่อเหตุฆ่าปิดปากจนสามารถติดตามจับกุมนายสุพรรณ และ นายถาวร ได้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563
ต่อมาขยายผลพบความเชื่อมโยงถึง หลงจู๊สมชาย ซึ่งการสืบสวนพบเป็นนายทุนบ่อนดังกล่าวและบ่อนการพนันอีกหลายแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก มีรายงานว่าตำรวจคุมตัวนายสมชาย ไปสอบสวนที่กองปราบปราม