‘รังสิมันต์ โรม’ ชี้ ร่างแก้ รธน. ยังอยู่ หลังศาลให้ลงประชามติ
รังสิมันต์ โรม แสดงความเห็นหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ทำประชามติ 2 ครั้ง ชี้ร่างแก้ รธน. ยังอยู่ หวังสมาชิกรัฐสภาจะลงมติเห็นชอบ เพื่อส่งต่อให้ ปชช. ต่อไป
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กแสดงความเห็นหลังจากที่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ทำประชามติ 2 ครั้ง ก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า “[คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไม่ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญที่ทำมาตกไป และการลงประชามติต้องมีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าประชาชนเห็นชอบ ก็เท่ากับเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย]
หลังจากที่ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. ร่วมกับ ส.ส. จากพรรคการเมืองของ คสช. ได้ขอให้รัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าตัวรัฐสภาเองมีอำนาจแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้หรือไม่
ในที่สุดวันนี้ (11 มีนาคม 2564) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่ารัฐสภามีอำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าต้องมีการลงประชามติก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ลงประชามติอีกครั้งว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
ก่อนอื่นผมต้องย้ำก่อนว่าการดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญที่รัฐสภาทำมาถึงตอนนี้ เป็นกระบวนการที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ ไม่ได้ขัดหรือแย้งกับคำวินิจฉัยนี้ของศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ดังนั้นสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจึงไม่สิ้นผล และจะต้องดำเนินการต่อไป
อันที่จริงในรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (8) ได้กำหนดให้การแก้รัฐธรรมนูญในบางหมวดนั้นต้องมีการลงประชามติ ซึ่งรวมถึงการแก้หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งในกระบวนการที่ทำอยู่นี้ยังเป็นเพียงการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังมิได้มีการจัดธรรมนูญฉบับใหม่เริ่มขึ้นจริงๆ แต่อย่างใด
และในเมื่อการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มีการแก้มาตรา 256 ซึ่งอยู่ในหมวด 15 จึงต้องมีการลงประชามติก่อนที่จะบังคับใช้อยู่แล้ว ผมเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มีส่วนที่เป็นสาระสำคัญที่สุดคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาโดยการตั้ง ส.ส.ร. ดังนั้นการลงประชามติในครั้งนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเริ่มต้น หากประชาชนลงประชามติเห็นชอบกับการแก้รัฐธรรมนูญนี้แล้ว ก็เท่ากับประชาชนเห็นชอบกับหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาด้วย
ต่อจากนี้กระบวนการในรัฐสภา ยังเหลือการลงมติในวาระที่ 3 ผมหวังว่าสมาชิกรัฐสภาทุกท่านจะร่วมกันลงมติเห็นชอบต่อการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพื่อส่งต่อไปให้ประชาชนได้ลงประชามติเห็นชอบให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่งต่ออนาคตให้ประชาชนได้กำหนดด้วยมือของพวกเขาเอง”