โก้ ธีรศักดิ์ อัพเดทอาการ นุ๊ก สุทธิดา หลังป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
หลังจากที่หลายคนเป็นห่วงกับอาการของ นุ๊ก สุทธิดา นักร้องดังยุค 90 ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง งานนี้เพื่อนสนิทอย่าง โก้ ธีรศักดิ์ ก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงอาการของนุ๊ก รวมถึงสภาพจิตใจด้วย และสาเหตุที่ว่าทำไม มูฮาหมัด ฮากีม บินอาซาฮา สามีชาวมาเลเซีย ไม่ได้มาหานุ๊กที่โรงพยาบาล จนหลายคนสงสัยว่าทั้งคู่อาจจะมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า
โดยโก้บอกว่า จริงๆ เราไม่ได้ทราบกันมาก่อนล่วงหน้า เพราะเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นุ๊กเขารู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรที่คอและไปตรวจสุขภาพ ก็พบว่าเป็นเนื้องอกตรงไทรอยด์ หมอก็แนะนำให้ตัดออก พอตัดออกไปก็คิดว่าน่าจะหายดีแล้ว แต่อาจจะต้องปรับเรื่องการทานยาตลอดชีวิต เรื่องไทรอยด์ เพราะมันเป็นต่อมที่สร้างฮอร์โมน แต่หลังจากนั้น หมอก็บอกว่ามันมีบางส่วนที่ลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง เขาก็เลยแนะนำให้ลองส่งชิ้นเนื้อตรวจ ก็พบว่ามันมีความผิดปกติเป็นเซลล์มะเร็ง
หมอก็เลยแนะนำว่ามันมีวิธีการรักษาหลายอย่าง เช่น การให้เคมีบำบัด คุณนุ๊กก็เลยเลือกกลืนแร่ ซึ่งช่วยเรื่องฆ่าเชื้อต่างๆ ตลอดจนช่วงไทรอยด์ด้วย ก็เลยทำให้ไม่อยู่ข้างนอกเพราะต้องไปเก็บตัวทั้งหมด 3 วัน ไปอยู่ในนั้น 24 ชม. วันที่ 24 ก.ค. นุ๊กก็จะออกมาและพักฟื้นที่บ้านโก้ 7 วัน
การกลืนแร่เขาบอกว่าคล้ายๆ กับการฉายแสง แต่อันนี้เป็นการกลืนแร่ที่มีกัมมันตภาพรังสี และมันจะฆ่าเชื้อต่างๆ ในร่างกาย แต่เวลาที่ทำ ต้องอยู่ในห้องที่เป็นตะกั่ว เวลาคนเอาอาหารไปให้ ก็เอาไปวางที่หน้าห้อง แล้วก็ต้องออกมาหยิบเอง จะไม่โดนตัวไม่พบใคร แพทย์ก็ต้องใส่ชุดกันรังสี หลังจากนั้นก็จะให้อยู่ในนั้นหลายวันเพื่อใช้ตัวแร่รักษา พอออกมาปุ๊บในช่วงแรกๆ ยังไม่อยากให้อยู่ใกล้เด็กเลยครับ เพราะอย่างผู้ใหญ่อยู่ด้วยกัน เราก็ไม่จับเนื้อต้องตัว แต่เด็กบางทีจะมากอดหอม แล้วเหงื่ออาจจะส่งผล เพราะตัวยังค้างรังสีอยู่
นุ๊กมาพักที่บ้านโก้ด้วย?
ใช่ เพราะว่าที่บ้านมีอพาร์ตเมนต์ด้วย เขาก็จะ Social Distancing ก็เป็นโอกาสดีเพราะบ้านเราเป็นร้านอาหารด้วย เวลาจะทานอะไร เราทำขึ้นไปเสิร์ฟมันก็ง่าย
การรักษาขั้นต่อไปต้องทำยังไงต่อ?
ผมว่าต้องไปหาแพทย์อีกครั้งนึง ต้องไปตรวจดูว่าเซลล์ที่เกิดขึ้นมามันลดไหม มันหายไปไหม ต้องดูแลตัวเองทุกระยะอันนี้โก้ไม่ทราบเหมือนกันว่านุ๊กป่วยมันเป็นเริ่มต้นรึเปล่า แต่รู้ว่ามันเป็นสเตจที่ต้องใช้เคมีบำบัด
สภาพจิตใจของนุ๊กตอนรู้ว่าเป็นมะเร็ง?
ผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่เครียด นุ๊กเองก็เล่าให้ฟังว่าช่วงวันแรกเครียด แต่เขาไม่ได้เครียดที่เป็นมะเร็งนะ เขาเครียดว่าลูกยังเล็ก คือน้องอดัมเพิ่ง 3 ขวบ เขาจะจัดการอะไรยังไงต่อไปในชีวิต แต่พอผ่านช่วงวันแรกที่มันเครียด เขารู้สึกว่าเขาเริ่มบริหารจัดการชีวิตว่าเขาควรจะทำตัวยังไง หรือจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตยังไง และจะอยู่กับมันยังไง มันก็เริ่มการรักษาเป็นลำดับ แต่เหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดช่วงโควิดนี่เลย
กับเรื่องลูกๆ เป็นไงบ้างในช่วงที่รักษาตัว?
จะมีคุณตาคุณยายคอยดูแลด้วย สามีของนุ๊กก็ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงแรกๆ อาจจะไม่ได้เจอนุ๊ก เพราะนุ๊กก็ไม่อยากให้ลูกใกล้ชิดด้วยในตอนแรกเพราะกลัวอันตราย ลูกๆ ก็ทราบว่าคุณแม่ป่วยเป็นอะไร เพราะนุ๊กไม่ได้ปิด บอกครอบครัวบอกทุกคน
เท่าที่ดูนุ๊กก็ใจสู้กับการรักษา?
ใจสู้สิ เพราะว่าตอนที่ผ่าตัดปุ๊บ ออกมาแค่ 1 สัปดาห์ เขาก็รับงานต่อเลย เพราะมีงานที่คั่งค้างอยู่ รวมถึงละครของพี่นุ๊กที่เพิ่งถ่ายจบไปด้วย สิ้นเดือนนี้ก็จะออนแอร์แล้ว งานเขาข้ามปีนะ แล้วยังมีงานที่เป็นเซอร์ไพรส์อีกต้นปีหน้า เขาเป็นคนอึดอยู่แล้ว เป็นนักกีฬามีความอดทน
แบบนี้เรื่องงานจะมีผลกระทบมั้ย?
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าบางคนไปเคมีบำบัดแล้วร่างกายเหนื่อยล้าอ่อนแรง แต่ช่วงวันแรกๆ เขาจะพะอืดพะอมบ้าง วันที่ 2 ก็มีเสียงแหบบ้าง เราก็ไม่รู้วันพรุ่งนี้ออกมา เขาจะเหนื่อยล้าแค่ไหน ดังนั้นมันต้องปรับตัวกันรายวัน แต่จริงๆ งานก็รออยู่ ปลายเดือนก็มีงานรอแล้ว ถ้าเกิดมันไม่ไหวจริงๆ เจ้าภาพเองก็คงเข้าใจครับ
นุ๊กก็เป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ก็มาล้มป่วย?
ใช่ มันก็คือวัยทำงานเนอะ แล้วก็มีลูกด้วย เราก็ต้องดูแล ถ้าจะมองว่าเป็นสัจธรรมของชีวิต เราก็ต้องทำวันนี้หรือวางแผนวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อวันพรุ่งนี้
เราเองก็อยู่เคียงข้างนุ๊กมาทุกสถานการณ์?
มันเจอมาหมดแล้วตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ จนเข้าวงการ จนมีครอบครัว มันคือมิตรภาพ ผมว่าคนป่วยหรือไม่สบายเอง สิ่งสำคัญคือสุขภาพใจของตัวเอง ที่กำลังใจใครก็ช่วยเขาไม่ได้ ถ้าเกิดกำลังใจเขาไม่ดี ส่วนที่สองเลยคือพ่อแม่ ลูก สามี คือคนในครอบครัว และกำลังใจที่ขาดไม่ได้คือมิตรภาพจากคนใกล้ชิด เช่น เพื่อน หรือกัลยาณมิตรต่างๆ
โก้ก็ดีใจที่นุ๊กรีเควสท์เองว่าต้องเป็นเรา ในวันที่เขาเข้า รพ. เขาบอกว่ามาส่งหน่อยนะ อยากให้แกมาส่ง แกมาเยี่ยมฉันนะ แกมาทุกวันเลยนะ เราก็บอกว่าได้เลย เดี๋ยวไปส่งให้ เราก็ไปส่งจนเขาเข้าห้องผ่าตัด มันก็มีกันอยู่แค่นี้ เพราะเราเกิดมาในยุค 90 จะให้ไปคบเพื่อนปี 2020 ก็ไม่ทัน เราก็ทำหน้าที่ของเพื่อนหรือกัลยาณมิตรให้ดีที่สุด
ปลอบใจหรือให้กำลังใจยังไงบ้าง?
ผมไม่ได้เรียกว่าปลอบใจครับ เพราะบางทีมีความรู้สึกว่าคนที่ป่วยเจ็บ เราไม่ควรไปถามเรื่องนั้นเยอะ ก็พยายามคุยเรื่องอื่น เราไม่จำเป็นต้องไปถามว่าเจ็บตรงไหน ลามไปตรงไหน เราฟังรอบเดียวจบ พอแล้วรู้เรื่อง มีแต่สิ่งดีๆ เอาพลังงานบวกยัดใส่ตัวเขาไป เขาจะได้มีความสุขครับ