โหด! ผู้ใหญ่บ้าน ยิงพระ-ชาวบ้านดับ เหตุฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
โหด! ผู้ใหญ่บ้าน ยิงพระ-ชาวบ้านดับ เหตุฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
7 เม.ย. 63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้า กรณีผู้ใหญ่บ้านยิงพระ และชาวบ้านดับ 2 ราย ข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว โดยได้รับรายงานจาก สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เวลาประมาณ 02.00 น. ได้รับแจ้งจาก นายอำเภอท่าชนะว่า มีเหตุยิงกันบริเวณทางขึ้นสำนักสงฆ์เขาเพลา หมู่ที่ 8 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
พนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน อัยการจังหวัดไชยา แพทย์โรงพยาบาลท่าชนะ ฝ่ายปกครอง อำเภอท่าชนะ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อ พระชลธาร กาญจนบุตร และ นายชูรัตน์ คงคล้าย จึงได้ทำการชันสูตรศพ ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุ คือ นายมานพ โกปิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ตําบลสมอทอง อําเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยก่อนเกิดเหตุ นายมานพได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์วิ่งไปมาทางขึ้นสํานักสงฆ์เขาเพลา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรวม 3 คน พบพระชลธารกับนายชูรัตน์อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ นายมานพได้สอบถามว่ามาทําอะไรกัน พระชลธารตอบว่ามาตีผึ้ง
นายหรินทร์ แดงชนะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงแจ้งว่า ห้ามออกจากเคหสถานช่วงเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และได้แจ้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ฝ่ายปกครอง มาช่วยเจรจา เมื่อชุดเคลื่อนที่เร็วมาถึง พระชลธารไม่พอใจ จึงได้ชักอาวุธปืนซึ่งพกอยู่ที่สะเอวขึ้นมา นายมานพจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่พระชลธาร กระสุนถูกที่ลําตัวจนพระชลธารล้มลง และได้ใช้อาวุธปืน ยิงใส่นายชัยสิทธิ์ ที่กําลังถือมีดอยู่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นําตัวนายมานพผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนที่ สภ.ท่าชนะ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” โดยพนักงานสอบสวน ยังคงต้องรอผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ผลการชันสูตร ประกอบสำนวนการสอบสวน อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีข้อสงสัยและให้ความกระจ่างกับสังคม ประกอบกับเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ตลอดจนการดําเนินการตามขั้นกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรมอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนและฝ่ายสืบสวนต้องเร่งคลี่คลายคดี ข้อสงสัยให้สิ้นกระแสความทุกประเด็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับประชาชน
ที่มา: brighttv