ปู ไปรยา เปิดใจเลิก แมทธิว ไม่ได้จัดฉากขอแต่งงาน

P. Wanutchเผยแพร่: 25 ม.ค. 2563 10:41 น.| อัปเดต: 25 ม.ค. 2563 10:42 น.

ปู ไปรยา เปิดใจเลิก แมทธิว ไม่ได้จัดฉากขอแต่งงาน

จากกรณีข่าวลือ ดาราสาวจัดฉาก ซื้อแหวน และให้ฝ่ายชายขอแต่งงาน แถมฝ่ายชายยังรวยไม่จริงอีก ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค. ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ได้ไปร่วมงาน Venezuela Film Night (เวเนซุเอลา ฟิล์ม ไนท์) ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์และโต้ข่าวที่มีคนพุ่งเป้ามายังตน ว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าถอนหมั้นกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ แมทริว บราก ส่วนเหตุผลนั้นปูบอกว่า

เริ่มตั้งแต่ต้นเลยดีกว่าเพื่อความเข้าใจ ปูเป็นคนตรงๆ เดือนนี้มีอีเว้นต์เข้ามา 4 งานตั้งแต่ข่าวนี้ แต่ว่าปูไม่รับเลย เพราะปูคิดว่า ข่าวที่ไม่ได้เกี่ยวกับปูโดยตรงแต่คนที่ปูรักไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ปูหาเงินจากข่าวนี้ไม่ได้ เพราะปูมีหลายเรื่องจะต้องแก้นิดนึง เพราะปูรู้สึกว่ามีบางเรื่องไม่ค่อยแฟร์

Advertisements

แต่ในเรื่องของแมทธิว ข่าวอักษรย่อ บางครั้งเขียนเวอร์เพื่อให้คนคลิก ไลก์ แชร์ คอมเมนต์ บางครั้งมันบั่นทอนและทำร้ายจิตใจของคนคนนึงมาก โดยที่เขาแก้ไม่ได้ แล้วแมทธิวเขาเป็นคนต่างชาติ ไม่มีพื้นที่ที่จะแก้ เขาไม่เคยอวดรวย แต่บ้านเขาโอเค มีเงินใช้ แล้วคำว่าปลอมมันแรงมาก ในใจปูรู้สึกว่าเขาสูญเสียคู่หมั้นเขาแล้ว เขาต้องย้ายกลับประเทศเขาแล้ว และมาเจอข่าวนี้ตอนที่เราลดสถานะ

https://www.instagram.com/p/Bz2IazKll2l/?igshid=14w884w0ah4qe

เขาไม่ได้โกรธ เขาเข้าใจ ล่าสุดที่ปูบินไปเจอเขาที่แอลเอ เห็นน้ำตาเขาคลอ เขาอึ้ง เพราะเขาไม่คิดว่าจุดจบของการที่เราจะคุยกันเป็นคำพูดที่ไม่เกี่ยวกับเขา เพราะเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอาชีพ และรายได้ของปู ตอนนี้ที่ปูคืนแหวนเขาไปแล้ว ปูไม่ต้องซื้อแหวนให้ตัวเอง เพราะตอนนี้ปูยังมีงานโฆษณา ยังมีอาชีพ ที่การแต่งงานมันจะเปลี่ยนความรับผิดชอบในชีวิตการทำงานของปู

การแต่งงานมันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว เป็นแม่ของลูก พอใกล้วันแต่งงานมาเรื่อยๆ ซึ่งเราวางไว้แล้วเป็นเดือน 6 ปีหน้า ปูมองว่าปูยังไม่พร้อมที่จะสละสิ่งที่ปูสร้างมาในเมืองไทย ใครจะเสียสละชีวิตของตัวเองในวัย 30 แล้วเราจะเสียใจทีหลังมั้ย และจะมาเป็นภาระพ่อแม่เรามั้ย ทั้งที่เราสร้างมาขนาดนี้ ลูกที่คลอดมาจะยังไง ปูคิดเรื่องพวกนี้ พี่ ป้า น้า ที่อยู่ต่างจังหวัด เด็กที่ปูส่งเรียน ภาระปูเยอะมาก

ปูแต่งไม่ได้ ไม่ใช่ปูไม่รัก ปูรักเขาสุดหัวใจ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก เขาเป็นแฟนที่ซื่อสัตย์ ไม่เคยมีคนอื่น ไม่เคยเอาเปรียบ แต่ปูเลือกอาชีพ ผู้หญิงถ้าเลือกแล้วเราถอยหลังไม่ได้ เราแต่งงานแล้ว สมมุติมันไม่เป็นสิ่งที่เราฝัน มันจะเหนื่อยมากถ้าจะกลับมา ปูเห็นจากแม่ปูมากแล้ว เห็นจากคนรอบข้าง ปูยอมเจ็บในวันนี้เพื่อเขาจะได้ในสิ่งที่เขาคู่ควร เพราะปูเลือกแล้ว

จากข่าวลือที่เกิดขึ้นมีอะไรอยากชี้แจงบ้าง?

ไม่เคยซื้อแหวนเอง ถ้าปูจัดฉากจริงทำไมไม่สร้างภาพให้มันหรูหรา ในโรงแรม ใส่ชุดราตรี ทำไมต้องญี่ปุ่น ทำต้องในสวน ทำไมต้องใส่กางเกงยีนส์ ปูไปรถ้าเมคต้องอิตาลีบนเรือ จ้างออแกไนซ์ไปเลย อันที่ 2 ที่รู้สึกว่าไม่ใช่คือ บริษัทเขาไม่ได้เจ๊ง อันนี้เลยไปนิดนึง แล้วเรื่องเขาเอาเปรียบปู แล้วเรื่องเปย์ ปูไม่ใช่ธนาคาร ตัวเขามีพ่อมีแม่ ถ้าปูมีอาชีพขนาดนี้ แล้วปูไม่คิดจะเลี้ยงแฟนสักมื้อ ไม่เคยซื้อของขวัญให้เขา คืออะไรคบมา 4 ปี

https://www.instagram.com/p/BvgZz4QHkKd/?igshid=i5hrvtf1tck7

ตอนนี้ไปเดินห้างคนก็มองดูว่ามีแหวนไหม มองสีหน้าปู แล้วช่วง 4 วันก่อนปีใหม่ ปูรู้สึกผิดมากเพราะว่าเราห่างมาได้ 4-5 เดือนแต่ยังคุยกันทุกวัน คนเรารักกันมันไม่ได้เลิกกันง่ายๆ แต่เราก็มีความรับผิดชอบต่อเขา เพราะการเตรียมงานแต่งงานมันมีค่าใช้จ่าย เดี๋ยวจะเตรียมส่งบัตรเชิญออก ทุกอย่างตัดสินใจลดสถานะก่อนที่จะเป็นเรื่องลำบากกับพ่อแม่ของเขา แล้วถ้าปูต้องการจะสร้างซีนสร้างภาพ คงต้องแต่งที่เมืองไทย

ทางแมทธิวยื้อขนาดไหนวันที่ถอดแหวนคืนเขา?

เขาไม่ได้ยื้อเพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีศักดิ์ศรี ประโยคเดียวที่เขาพูดตอนท้ายกับปูรอบล่าสุดคือ ยังไงก็ตามเธออย่าแพ้และอย่าล้ม ถ้าเลือกแล้ว ทำหน้าที่ของเธอต่อไป ถ้าอยากช่วยคน อยากทำงานสังคม คนไม่เห็นด้วย คนว่าเธอ ไม่เป็นไรเธอจะไปแคร์ทำไม ตั้งแต่ต้นเธอเลือกแล้วนี่

การตัดสินใจแบบนี้คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วใช่ไหม?

ถ้ารู้ว่าตัวเรารับผิดชอบหน้าที่ของภรรยา และการเป็นแม่ของคนยังไม่ได้ ตอนยังไม่พร้อม การที่กั๊กคนในช่วงอายุ 30-35 ปีมันเป็นช่วงหนุ่มเนื้อหอม ปูรักเขาเกินกว่าที่จะกั๊กเขาเอาไว้ ถ้ารักใครจริงต้องปล่อย แล้วถ้าเขาเป็นของปู ปุเชื่อว่าอีก 5 ปีเขาอาจจะมาขอปูอีกทีก็ได้

งานแต่งที่เคยเตรียมการไว้ถึงขั้นไหน?

เตรียมแล้วค่ะ ล็อกสถานที่ทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว แต่ก็ยกเลิกด้วยเหตุผลอย่างที่บอกไป ถึงได้บอกว่าข่าวไม่ตรงสักอย่างเลย แต่ว่าเจ็บ

แล้วเรื่องที่ว่าฝ่ายชายไม่รวยจริงล่ะ?

คำถามนี้ตอบยาก เพราะว่าถ้าประชาชนฟังแล้วปูตอบว่ารวย ก็ดูเหมือนอวดรวย ตอบว่าปานกลางก็ดูเหมือนตอบเป็นกลางอีก และถ้าให้ตอบว่าไม่รวยมันก็ไม่จริง ถึงได้บอกว่าเป็นคำถามที่ตอบยาก ให้ลองไปเสิร์ชประวัติว่าคุณพ่อของเขาทำอาชีพอะไรดีกว่า และครอบครัวของเขาทำอะไร

https://www.instagram.com/p/Bt2RSE2B5c9/?igshid=5f7ijds89hst

ที่ผ่านมาปูรู้สถานะทางบ้านของเขาทั้งหมด ตอนไปเยี่ยมบ้านเขา ก็ไปเจอพ่อแม่เขา แล้วพ่อแม่เขาดีมาก คุณแม่ของเขารู้ถึงข่าวนี้ด้วย ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ดาราคืออาชีพของเธอนี่ ธรรมดาเรื่องนินทาเป็นเรื่องปกติ พ่อแม่เขาไม่ซีเรียส ปูกับแมทธิวแค่อึ้งทั้งคู่ เพราะจังหวะเวลามันมาในช่วงเวลาที่พวกเราคิดว่าจะได้ซ่อมแซมจิตใจ ตอนนี้เวลาปูมีอะไรก็ยังปรึกษาแมทธิวทุกวัน

สิ่งเดียวที่ไม่ได้ปรึกษาคือบทสัมภาษณ์นี้ เพราะถ้าปูพูดกับเขาด้วยเหตุผลอีกรอบในโทรศัพท์ คิดว่ามันเจ็บปวดเกินไปแล้วสำหรับเขา แต่เรื่องอื่นปรึกษากันทุกวัน ตอนที่ไปแอลเอก็ยังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย เป็นความรู้สึกที่แปลกเพราะว่าไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ยังเห็นแววตาที่เขามองปูเหมือนเดิม แต่พอถึงเวลากลับบ้านก็ต่างคนต่างกลับ บาย แค่นี้นะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันมาเกือบ 4 ปี

คิดว่าจะมีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมไหม?

ปูตอบไม่ได้ว่าเขาจะรอไหม แต่ปูรู้ด้วยใจของเขา เขาบอกว่าปูคือรักแท้ ไม่อย่างนั้นคงไม่คุกเข่าขอแต่งงาน เลยไม่รู้ว่าเขาจะรอหรือเปล่า แต่ปูทิ้งเมืองไทยไม่ได้ ให้ไปทำงานที่เมืองนอกชั่ววูบได้ แต่จะทิ้งเมืองไทย ทิ้งครอบครัว ปูยังทำไม่ได้

ส่วนเรื่องที่จะให้ตัวเขาย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย คือเขาไม่มีเพื่อนที่นี่ เขาพูดภาษาไทยไม่ได้ จะให้หาเพื่อนที่มีแบ็กกราวนด์คล้ายๆ กันก็ยาก แมทธิวไม่ใช่คนชอบเที่ยวกลางคืน ตอนอยู่ไทยเขารอปูทุกวัน ตอนปูออกไปทำงาน พอเขาเริ่มมีงานทำ เรา 2 คนก็ไม่ได้เจอกัน เลยเป็นสถานการณ์ที่มันไม่เวิร์ค

https://www.instagram.com/p/Bv1PIe2Fm4j/?igshid=1196rm8eez7sd

คุยกันหลายรอบไหมกว่าจะตัดสินใจแบบนี้?

ช่วงที่ปูเริ่มเครียดมากคือตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ถ้าติดตามข่าวก็จะเห็นว่าปูมีข่าวหลายๆ อย่างอยู่ช่วงหนึ่ง ปูเลยมุ่งอยู่กับงานสังคม เป็นปีแรกที่ปูไม่ได้รับละคร รับแต่โฆษณาและก็อยู่เมืองนอก เพราะว่าปูเริ่มรับรู้อะไรเยอะ จนรู้สึกว่าใจตัวเองไม่อยากรับรู้อะไรมาก เลยไปอยู่เมืองนอก

พอแรงกดดันของงานแต่งเกิดขึ้น ปูก็บอกเขาว่าขอทำงาน ซึ่งปูก็ทำงานจริงๆ เดือนกันยายนที่ไปเวเนซุเอลา ปูบินไปทั้งหมด 19 ไฟลท์ เขาไม่ได้เจอปูเกือบ 3 เดือน จาก 3 เดือนกลายเป็น 4 เดือน และ 4 เดือนครึ่ง เขาก็เรียกปูไปคุยว่ายังไง มีอะไรก็พูดได้ ปูเลยบอกเขาตรงๆ ว่า การเป็นผู้หญิงที่สู้มาตลอด คนพูดไม่ได้ว่าเจออะไรมาบ้าง แต่พี่นักข่าวก็รู้ว่าวงการเป็นยังไง กว่าปูจะมีวันนี้มันไม่ง่าย ปูถอยไม่ได้

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

แฮปปี้ค่ะ มีความสุขดี แต่จะเศร้าก็ตอนที่นึกถึงเขาเพราะรู้สึกผิดกับข่าวที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดกับการที่ปูเลือกตัวเอง เลือกอิสรภาพของตัวเอง การเลิกกันของข่าวดารามักจะบอกว่ามีมือที่ 3 ไปไม่รอด ผู้ชายปลอม ผู้หญิงปลอม นิสัยไม่ดี แต่ชีวิตของมนุษย์จริงๆ มันคือความรับผิดชอบ สเต็ปต่อไปคือความมั่นคง แล้วตัวเราพร้อมไหม แล้วกันเลิกแบบนี้มันไม่ได้เลิกแบบโกรธกัน แต่รู้ว่าเราทั้งคู่คือผู้ใหญ่ และรู้ว่าเดินหน้าต่อไปตอนนี้ยังไม่ได้

หลังจากนี้จะปิดโอกาสคนอื่นเพื่อรอเขาไหม?

ปูไม่มีคนอื่น ปูรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือรักแท้ของปู เพราะเขาเป็นคนดี แต่รักแท้ของปูอีกคนหนึ่งคือตัวปู ปูรักตัวเอง รักประเทศตัวเอง รักครอบครัวตัวเอง รักงานสังคม รักวงการบันเทิง รักพี่นักข่าว รักกล้อง ปูถอยไม่ได้ หลังจากนี้เรื่องแต่งงานไม่ได้อยู่ในหัวปูแล้ว ถึงได้บอกว่าข่าวไม่ตรงสักเรื่อง

https://www.instagram.com/p/BuflLSCFttF/?igshid=1dl76u2bt4gkz

ไม่ได้ร้อนตัวว่าอยากจะแต่งงานเพราะกลัวที่จะเสียอิสรภาพตัวเอง แต่เขาพร้อมที่จะแต่ง เพราะคิดว่าถ้าปูได้แต่งงานจะได้ไปพักผ่อนพักใจที่เมืองนอก ชีวิตปูอาจจะมีความสุขมากกว่าการแข่งขันในจุดนี้ แต่คนทำงานมา 17 ปีปล่อยวางปลงยาก ตอนนี้ปูได้มุมมองความรักที่โต รักใครจริงต้องปลงและปล่อย

อาจจะเป็นเพราะว่าปูทำงานสังคมเยอะ เวลาที่ได้ไปอุปถัมภ์เด็กและได้เห็นว่าทำไมครอบครัวของเขาดูแลเขาไม่ได้ แล้วปูก็คิดในใจว่าถ้ามีลูกของตัวเอง ความรับผิดชอบของคนเป็นแม่ก็คือลูก แล้วเด็กๆ ที่ป่วยอุปถัมภ์เขาก็ไม่เหลือใครแล้ว อย่างเวลาที่ปูเห็นลิเดียอุ้มลูกคือน่ารักมาก แต่ในใจตัวเองคิดว่ายังไม่ได้อยากมี ปูแค่อยากอุ้มลูกของเพื่อน หรืออยากอุปถัมภ์เด็กคนอื่นๆ