ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาเป็นทำเลที่ร้อนเเรงอย่างมากในการซื้อขายลงทุนอสังหาฯ ในปัจจุบัน พัทยาเองเป็นจุดหมายปลายทางซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 14 ล้านคน ยังไม่นับรวมถึงการลงทุนจากรัฐเเละเอกชนที่หลั่งใหลเข้ามาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการท่องเที่ยวเเละเศรษฐกิจเเล้ว เมืองชายทะเลเเห่งนี้กำลังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะสถานที่จัดการเทศกาลดนตรีเเละศิลปะขนาดใหญ่อย่าง Wonderfruit ซึ่งดึงดูดผู้ร่วมงานชาวไทยเเละชาวต่างชาติราว 20,000 คน จาก 50 ประเทศ และนี่คือเหตุผล 10 ข้อที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเทศกาลที่กำลังเปลี่ยน
1.เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ทางดนตรี
Wonderfruit เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมซึ่งนำเอาศิลปินเเละดีเจชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกมาเปิดประสบการณ์ทางดนตรี โดยเเนวเพลงมีความหลากหลายตั้งเเต่ ร็อค อินดี้ ไปจากถึงหมอลำ และอีกหลายเเนวที่หลายคนอาจไม่เคยฟัง Wonderfruit จึงเป็นงานที่ทำให้หลายคนได้ค้นพบเเนวเพลงใหม่ ๆ และสนุกกับการเต้นไปตามจังหวะเพลงในเวทีที่มีการออกเเบบที่น่าสนใจ เช่น Forbidden Fruit Stage ซึ่งสร้างจากไม้ไผ่รีไซเคิลหรือ Molum Bus ซึ่งเกิดจากการนำรถประจำทางมาแปลงโฉมเสียใหม่
2.เวทีที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย
เวทีในงานออกเเบบอย่างน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น Solar Stage ออกแบบมาเพื่อให้คนที่เข้าชมสามารถปีนขึ้นไปนั่งชมการเเสดงสดได้ในมุมสูง หรือเวที Polygon ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย อย่างระบบเสียง 360 องศา หนึ่งเดียวของโลก ผสมกับเทคโนโลยีการฉายภาพแบบเต็มรูปแบบ
3.เปิดโอกาสให้เป็นตัวของตัวเอง
Photo credit (instagram): Minkumiko, Mixybigmouth
Wonderfruit ไม่ใช่เเค่เทศกาลดนตรีเเต่เป็นเทศกาลศิลปะที่ให้ผู้เข้าร่วมงานสนุกกับการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ในงานมีดาราเเละนักเเสดงที่มีชื่อเสียงเเถวหน้าในประเทศเข้าร่วมมากมาย รวมถึงนักท่องเที่ยวเเละอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจากต่างประเทศ นอกจากนี้ผู้ที่เข้าร่วมงานยังมีความหลากหลาย ทั้งครอบครัว เพื่อน คู่รัก หรือนักท่องเที่ยวที่มาคนเดียว หรือกระทั่งพาสัตว์เลี้ยงมาด้วย
4.กิจกรรมบำบัดกายใจเพื่อฟื้นฟูความเครียดและเหนื่อยล้า
Wonderfruit ไม่ได้มีเเต่ดนตรีเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดเเละความเหนื่อยล้าตัวอย่างเช่น โยคะ ในปีที่ผ่านมามี กิจกรรมเรียนรู้เรื่องสมุนไพรในการรักษาโรคของชนเผ่าในป่าอเมซอน หรือการนวดเหยียบไฟซึ่งเป็นภูมิปัญญาโบราณที่ใช้เท้า น้ำมัน เเละความร้อนจากไฟในการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
5.เวทีสาธารณะที่สร้างเเรงบันดาลใจ
เวทีพูดของ Wonderfruit เป็นจุดเด่นหนึ่งของงานซึ่งรวบรวมเรื่องราวและนักพูดที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่นในปีที่ผ่านมา Wonderfruit เปิดเวทีถกเรื่องกัญชา การกินเเมลงเพื่อลดโลกร้อน ประเด็นความหลากหลายทางเพศ นที่ออกมาเล่าเรื่องราวมีตั้งเเต่นักผจญภัยซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ภูมิสภาปนิก รวมถึง “circular fashionista” นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจให้เข้าร่วม เช่น ชิบาริ หรือศิลปะการมัดตัวด้วยเชือกของญี่ปุ่น เเละกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็ก เช่น การบดสีธรรมชาติ การมัดย้อมผ้า โยคะสำหรับครอบครัว และการเลี้ยงหมู
6.ร้านอาหารมิชลินสตาร์และภาชนะที่รักษาสิ่งเเวดล้อม
อาหารเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของงาน โดยในงานมีเชฟชื่อดังจากไทยและต่างประเทศ รวมถึงร้านอาหารที่ได้รับมิชลิน สตาร์ เช่น 80/20 ซึ่งจัดเสิร์ฟอาหารทะเลที่อร่อยเเละรับผิดชอบต่อสังคมในราคามื้อละประมาณ 4,500 บาท นอกจากนี้ในงานยังขายอาหารไทยและนานาชาติในราคาที่ถูกลงมาและใช้ภาชนะที่ไม่ทำลายสิ่งเเวดล้อม
7.ประสบการณ์ค้างแรมในกระโจมหรือรถบ้าน
ประสบการณ์การนอนในกระโจมติดเครื่องปรับอากาศหรือการตั้งเเคมป์เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงาน Wonderfruit โดยผู้เข้าร่วมสามารถเลือกที่จะตั้งเเคมป์โดยนำเต็นท์มาเอง หรือเลือกพักในรถบ้าน กระโจมหรูติดเเอร์ หรือโรงเเรมพร้อมวิวทะเลในบริเวณใกล้เคียง
8.เวทีและสิ่งก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อโลก
Wonderfruit เป็นเทศกาลที่โด่งดังไปทั่วโลกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม เวทีอย่าง Solar Stage ออกเเบบโดยศิลปินอย่าง Gregg Flieshman ซึ่งออกแบบเวทีให้กับงานเทศกาลศิลปะที่โด่งดัง Burning Man โดยเวทีนี้สามารถถอดออกมาประกอบเป็นรูปร่างใหม่ ๆ ได้โดยไม่สร้างขยะ นอกจากนี้สิ่งก่อสร้างทั้งหมดในงานล้วนทำจากวัสดุรีไซเคิล เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม หรือหาได้ในท้องถิ่น ผู้เข้าร่วมงานยังต้องเตรียมเเก้วน้ำไปเองเนื่องจากในงานไม่ได้แจกแก้วพลาสติกแบบใช้เเล้วทิ้ง
9.เว็บไซต์ที่ช่วยคำนวนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการฟื้นฟูป่า
กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ส่งผลกระทบต่อโลก แต่ Wonderfruit พยายามส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานรับผิดชอบต่อสิ่งเเวดล้อมโดยการซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจก Wonderfruit สร้างเว็บไซต์เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถคิดคำนวนปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยจากการเดินทางของตัวเอง เช่น การนั่งเครื่องบินจากนอร์เวย์มายังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือขับรถมาเที่ยวงานจากกรุงเทพฯ โดยเงินที่บริจาคจะส่งไปยังมูลนิธิเเม่ฟ้าหลวงเพื่อช่วยในการปลูกป่าเเละฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรม
10.กิจกรรมทั้งหมดไม่ใช้เงินสด
การไม่ต้องพกเงินสดช่วยให้เราสนุกและไม่ต้องกังวลว่าประเป๋าสตางค์จะหล่นหายขณะที่สนุกกับการทำกิจกรรมหรือการเต้น สายรัดข้อมือใช้ในการซื้อของทั้งหมดเเทนเงินสดหรือบัตรเครดิต โดยมีจุดสำหรับเติมเงินกระจายอยู่ทั่วงาน
10 ข้อนี้เป็นเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเทศกาล Wonderfruit ซึ่งจัดขึ้นที่พัทยาในช่วงธันวาคมของทุกปี นอกจากเทศกาลนี้จะดีต่อโลกแล้วยังเปลี่ยนโฉมพัทยาให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งดนตรีเเละศิลปะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลต่อดีต่อการท่องเที่ยวเเละอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่
