วันนี้ (29 พ.ย.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกระแสการกินแคปซูลกากเพชรหรือกลิตเตอร์ เพื่อให้อุจจาระสวยงามว่า ต้องดูว่ากากเพชรที่รับประทานเข้าไปเป็นแบบใด ซึ่งมี 2 แบบ คือ กากเพชรที่ใช้ประดับตกแต่งขนม ซึ่งแม้จะรับประทานได้ แต่ก็ไม่ใช่อาหารที่ควรรับประทาน ซึ่งองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ก็ระบุว่า ไม่ควรรับประทานหรือรับประทานให้น้อยที่สุด
เมื่อนำไปตกแต่งขนมต่างๆ ก็มีโอกาสที่จะรับประทานเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม การที่รับประทานเข้าไปแล้วอุจจาระออกมาเป็นกากเพชรเลยนั้น ต้องมาพิจารณาหรือตรวจสอบว่า เป็นกากเพชรที่ใช้แต่งอาหารจริงหรือไม่ หรือเป็นกากเพชรทั่วไปที่ทำมาจากพลาสติกและใช้สีที่ไม่ใสีผสมอาหาร
เนื่องจาก ตามหลักแล้วกากเพชรที่ใช้ในการแต่งอาหาร จะทำมาจากเจลาติน หรือแป้งข้าวโพดแล้วใส่สีผสมอาหารให้ดูแวววาว ซึ่งร่างกายสามารถย่อยได้ ก็ไม่น่าจะเหลือเป็นสีสันออกมาในอุจจาระ
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า การรับประทานกากเพชรแต่งอาหารนั้น ไม่มีการตั้งมาตรฐานว่า วันหนึ่งควรกินไม่เกินเท่าไร แต่ FDA สหรัฐ ระบุว่าไม่ควรรับประทานเลย หรือควรรับเข้าร่างกายให้น้อยที่สุด แต่ถามว่ารับประทานเข้าไปได้หรือไม่ ก็รับประทานได้ แต่ไม่ใช่อาหารที่ควรรับประทาน
ส่วนกากเพชรจากพลาสติกนั้นน่ากังวล เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ก็จะคล้ายกับเมล็ดผลไม้ที่เผลอรับประทานเข้าไป เมื่อลำไส้บีบดรัดตัวในการย่อย ก็มีโอกาสที่กากเพชรพลาสติกเหล่านี้จะเข้าไปครูดกับลำไส้จนเกิดบาดแผลได้ ถือเป็นอันตรายต่อร่างกาย ขณะนี้มีกระแสการสรรหาการรับประทานอะไรแปลกๆ ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจากการที่อยากลองทำอะไรแปลกใหม่ ตื่นเต้น แต่จะดีกว่าหรือไม่ หากไปทำเรื่องตื่นเต้นสนุกสนานอย่างอื่น
นอกจากนี้ พญ.พรรณพิมล ยังระบุว่า สำหรับลักษณะของอุจจาระสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพได้ โดยอุจจาระที่ดีและสวยนั้น ควรจะมีสีออกเหลือง เรียบ ไม่ขรุขระ มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เป็นก้อน ไม่แข็ง และค่อนข้างลอย ไม่จม ซึ่งการรับประทานอาหารอย่างพอเหมาะ จะช่วยให้อุจจาระออกมาดี หากมีสีดำเข้มก็อาจแปลว่ามีเลือดออกภายใน
ที่มา ข่าวสด
