ข่าวภูมิภาค

เด็กหญิง 13 เหยื่อขืนใจดิ่งตึกฆ่าตัวตาย แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ

จากกรณีที่เด็กหญิงวัย 13 ปี ‘น้องพิ้งกี้’ กระโดดจากคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง 1 ถนนรามคำแหงลงมาเสียชีวิต โดยแม่ของด.ญ.พยายามวิ่งไปห้าม แต่ไม่ทัน หลังจากเด็กโดนแก๊งวัยรุ่นชายลวงไปข่มขืน ช่วงเที่ยงวานนี้ (16 พ.ย.) น.ส.พร อายุ 45 ปี มารดาของน้องพิ้งกี้ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอรับศพน้องพิ้งกี้ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า หลังเจ้าหน้าที่เข็นร่างน้องพิ้งกี้ออกมาจากห้องผ่าพิสูจน์ น.ส.พร ถึงกับร่ำไห้และเข้าไปกอดร่างลูกสาวด้วยความเสียใจ

 

ก่อนหน้านี้ ผู้ตายมีปากเสียงกับแม่ ก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องพักชั้น 6 ขึ้นไปยังดาดฟ้าชั้น 12 โดยผู้เป็นแม่ได้วิ่งตามขึ้นไป พบว่าลูกสาวกำลังจะกระโดดตึกลงไป จึงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน โดยก่อนเกิดเหตุสลดผู้ตายได้โพสต์เฟซบุ๊กด้วยว่า “กูไปแล้วนะ กูรักมึง” เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 16 พ.ย.

 

ภาพจาก ข่าวสด

 

ผู้เป็นแม่ เผยว่า สาเหตุลูกสาวกระโดดลงมาเสียชีวิตว่าน่าจะเกิดจากความเครียด กดดันและหวาดกลัว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ น้องพิ้งกี้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 คนกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ภายในบ้านพักย่านคลองตัน ซึ่งต่อมาตำรวจ สน.คลองตัน บุกเข้าช่วยเหลือและนำตัวน้องออกมาได้ในสภาพคล้ายคนถูกมอมยา จากการตรวจร่างกายพบว่า ลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ และตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้เพียง 2 คน ที่เหลือยังหลบหนี

 

เวลาประมาณเที่ยงคืนของวันเกิดเหตุ น้องกลับเข้าบ้าน พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนพยายามปลอบใจ ให้ลูกอาบน้ำและกินยาที่โรงพยาบาลจ่ายมาให้ทานก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังจากลูกกินยาก็พยายามจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง โดยบอกกับตนว่าจะออกไปหาเพื่อน แต่ตนไม่ยอมให้ออก ทำให้ลูกสาวร้องไห้หนัก ก่อนวิ่งออกจากห้องขึ้นบันไดชั้นดาดฟ้า

 

ตนได้วิ่งตามขึ้นไป แต่ความดันขึ้นต้องเดินลงมานอนพักในห้อง เมื่ออาการดีขึ้นจึงตามไป เห็นลูกสาวยืนบนขอบระเบียง ตนพยายามวิ่งไปคว้าร่างลูกไว้ แต่ไม่ทัน ลูกสาวทิ้งตัวลงจากดาดฟ้าร่างตกกระทบพื้นไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนี้จะนำศพของน้องไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามที่สุเหร่าคลองตัน

 

ตำรวจสน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงพิธีศพของน้องไปก่อน จึงจะติดต่อมารดาเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมถึงมูลเหตุจูงในการเสียชีวิต ส่วนกระแสข่าวที่ว่าผู้ตายตั้งครรถ์ 1 เดือนนั้น เป็นคำพูดจากพยาน ซึ่งยังไม่ยืนยันว่าจริงเท็จอย่างไร ต้องรอผลแพทย์อย่างละเอียดก่อน

 

 

ที่มา ข่าวสด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button