จากกรณีที่กลุ่มชายบุกยิงถล่มบ้านคู่อริในพื้นที่หมู่ 11 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตั้งใจจะสังหารนายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน แต่กระสุนถูกลูกสาวคือ ด.ญ.ศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปีเสียชีวิต และเฉียดหน้าท้อง ด.ช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ขวบเจ็บเล็กน้อย เมื่อค่ำวันที่ 8 พ.ย. โดยศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย
ผู้ห้องหาทั้ง 3 รายแรกที่ถูกจับกุมได้คือ นายอนุศักดิ์ หรือแปะเท่งหรือเท่ แดงเดช อายุ 27 ปี นายวัชระ หรือบังและห์ วรรณมาศ อายุ 26 ปี และนายขุนพลหรือเมย์ เงินเลี่ยม อายุ 25 ปี ขณะนั้นผู้ต้องหาอีก 2 รายยังคงหลบหนีอยู่ คือ นายวัฒนา อนันทขาล หรือหัวมัน อายุ 28 ปี และนายวิศณุ นาคคง หรือเถื่อน อายุ 27 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุที่กลุ่มนี้ไปบุกยิงถล่มบ้านของ นายวิชัย เนื่องจาก นายอนุศักดิ์ แค้นที่ถูกนายวิชัย เจ้าของบ้านเตะหน้าเพราะไปเทน้ำหวานที่นายวิชัยกำลังนั่งกินอยู่ไปให้หมากิน
ในวันนี้ (15 พ.ย.) ตำรวจสืบทราบว่า นายวัฒนาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ยังคงกบดานหลบซ่อนตัวในป่าแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้าน หมู่ 8 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยจะมีพรรคพวกสมุนและญาติๆ คอยส่งข้าวส่งน้ำให้ตลอดเวลา จึงมีการนำกำลังตำรวจไปปิดล้อมบริเวณป่าละเมาะดังกล่าวอยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อให้ญาติเข้าไปเจรจาให้นายวัฒนาหรือหัวมันเข้ามอบตัวกับจนท.จะดีกว่า ในที่สุดนายวัฒนาหรือหัวมัน ยอมมอบตัวและยอมมอบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุน 9 มม.จำนวน 16 นัด ให้ญาติถือออกมาก่อนแล้วนายวัฒนาหรือหัวมัน เดินออกจากป่าละเมาะเข้ามอบตัวกับตำรวจ ก่อนถูกควบคุมตัวไปพล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช สอบสวนปากคำในเบื้องต้น
นายวัฒนา ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า คืนเกิดเหตุตนและพวกรวม 4 คนได้นั่งเสพยาเสพติดชนิดซอแลมในหมู่บ้านจนเมามาย และมีนายอนุศักดิ์ มาชวนให้ตนไปบ้านพักของนายวิชัย เพื่อคุยเจรจาตกลงกันหลังเกิดเหตุการณ์ที่ นายวิชัยกระโดดเตะหน้านายอนุศักดิ์
พวกตนทั้ง 4 ได้พากันนั่งรถยนต์เก๋งสี่ขาว ยี่ห้อโตโยต้ายาริส ไปที่บ้านนายวิชัย โดยมีนายวัชระหรือบังและห์ ขี่รถจยย.นำทางไปชี้เป้าบ้านของนายวิชัย และได้พกอาวุธปืนไปจำนวน 4 กระบอก มีอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนสั้น 9 มม.จำนวน 3 กระบอก เพื่อจะไปยิงบ้านของนายวิชัย เพื่อข่มขู่เท่านั้น โดยต้องการให้นายวิชัยขอโทษนายอนุศักดิ์ และจะให้นายอนุศักดิ์ เตะหน้านายวิชัยกลับ เพื่อล้างแค้นเท่านั้น
เมื่อตนและพวกไปถึงบ้านนายวิชัย ตะโกนเรียกนายวิชัยไม่มีใครเปิดประตูออกมาทำให้พวกตนโมโห ใช้อาวุธปืนทั้ง 4 กระบอกยิงถล่มใส่บ้านพักของนายวิชัยหลายสิบนัดจนพรุนเพื่อข่มขู่ แต่ไม่นึกว่าการยิงถล่มบ้านของนายวิชัยในคืนนั้น จะพลาดไปถูก ด.ญ.วัย 14 ปีเสียชีวิต และด.ช.วัย 4 ขวบบาดเจ็บ
นายวัฒนา กล่าวว่า ตนต้องขอโทษและขอแสดงความเสียใจต่อญาติๆ ของเด็กๆ ด้วยจริงๆ ตนรู้สึกผิดมากที่ยิงพลาดไปถูกเด็กจนตายและเจ็บ ตนไม่รู้จริงๆ และขอยอมรับผิดพร้อมจะติดต่อให้เพื่อนร่วมแก๊งที่เหลืออีก 1 คน คือนายวิศณุหรือเถื่อน นาคคง ที่ยังหลบอยู่มามอบตัวกับตำรวจให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ นายวัฒนา มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดหลายคดีและมีคดีพยายามฆ่าในปี 2561 ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนีการประกันตัวคดีพยายามฆ่าและไม่ไปฟังคำพิพากษาจนถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับ จนมาก่อคดีโหดล่าสุด
ที่มา ไทยรัฐ
