ข่าวข่าวภูมิภาคข่าวอาชญากรรม

แม่เผย ลูกสาวมาเรียก หลังลูกหายตัวร่วมเดือน ก่อนมาพบเป็นศพคุดคู้อยู่ในท่อ

วันนี้ (23 พ.ย.) ตำรวจ สภ.บ้านโคก และชาวบ้านรวมกว่า 60 คน ปูพรมออกค้นหา น.ส.เสาวลักษณ์ โนนสังข์ หรือต่ายอายุ 23 ปี ที่หายออกจากบ้านเลขที่ 106 หมู่ 8 ต.ดงมูลเหล็ก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. 62 พร้อมกับรถจักรยานยนต์ HONDA CLICK สีขาว หมายเลขทะเบียน ขฉข 441 เพชรบูรณ์

 

โดยเมื่อวานนี้ มีชาวบ้านไปพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่บ้านร้างไม่มีเลขที่ ในสวนมะขาม หมู่ 6 ต.บ้านโคก เจ้าหน้าที่จึงได้นำชาวบ้านออกค้นหาในวันนี้ จนกระทั่งพบศพ น.ส.เสาวลักษณ์ ในท่อวงที่ใช้ทำบ่อส้วมขนาด 2 วงวางซ้อนกัน มีน้ำขังอยู่ 1 ท่อ โดยวงท่อดังกล่าวมีอยู่ 4 จุดที่บริเวณด้านหลังบ้านร้าง

 

สภาพศพที่พบนอนคุดคู้อยู่ที่ก้นบ่อ ผิวหนังเปื่อยยุ่ยจนไม่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ นางพยัพ โนนสังข์ อายุ 52 ปี ผู้เป็นมารดามาดูเสื้อผ้า ก็ยืนยันว่าเป็นเสื้อผ้าที่บุตรสาวใส่ในเช้าวันที่หายออกจากบ้านไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่โรงพยาบาลพุทธชินราชจังหวัดพิษณุโลก

 

นางพยัพ เล่าว่า น.ส.เสาวลักษณ์ เป็นบุตรคนที่ 2 จากทั้งหมด 4 คน มีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้านานกว่า 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ราว 2 ปี เคยกินยาฆ่าตัวตายแต่ช่วยชีวิตไว้ทัน และไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ต่อเนื่องโดยตลอด

 

รวมถึงเช้าวันเกิดเหตุ แพทย์ก็ได้นัดให้ไปพบและรับยาเหมือนเคย บุตรสาวจึงบอกว่า จะไปขอเงินนายรวม อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ที่อยู่หมู่บ้านถัดไปราว 5 กม. ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป กระทั่งช่วงใกล้เที่ยงนายรวมได้โทรศัพท์มาสอบถามว่าบุตรสาวยังไม่มาหาเพื่อเอาเงินไปหาหมอเลย ตนจึงออกตามหาจนทั่ว ก่อนที่ในเช้าวันถัดมาจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ หลังจากนั้นก็ได้มีการประกาศตามหาทางช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และสื่อมวลชนเริ่มสนใจช่วยตามหา

 

นางพยัพ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้าที่ลูกสาวจะหายตัวไปประมาณ 2 วัน ลูกสาวได้ทะเลาะกับแฟนเรื่องที่ลูกสาวจะกลับไปคบกับแฟนเก่า และบอกเลิกกับนายรวม (ผู้ตายเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง) หลังเกิดเหตุนายรวมไม่เคยมาสอบถามอะไรเลย จึงเป็นที่ผิดสังเกต และในช่วงกลางคืนก่อนหน้าที่จะพบศพลูกสาวราว 4-5 วัน ช่วงค่ำ ขณะที่ตนนอนดูทีวีในมุ้งและยังไม่หลับ ได้ยินเสียงลูกสาวเรียกตนเองว่า “แม่” และเสียงฝีเท้าเดินขึ้นบ้าน ตนรีบลุกมาดูแต่ไม่พบใคร ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่ 4-5 คืนต่อเนื่องกัน จึงมีลางสังหรณ์ในใจว่าลูกสาวคงเสียชีวิตไปแล้ว

 

ขณะนี้ตำรวจระบุว่ายังไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้ตายถูกฆาตกรรมหรือไม่ ต้องรอผลผ่าพิสูจน์ก่อน แต่ได้นำตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนแล้ว

 

 

ที่มา ไทยรัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button