ชาวบ้านรอรุมกระทืบ ลุงนัท เจ้าของสูตรยาดองมรณะ
จากกรณีที่ชาวบ้านซอยสถาพร หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ หลังหลงเชื่อดื่มยาดองคางคก ของ นายณัฏฐ์ภณ โชติภัทรไพบูลย์ หรือ ลุงนัท ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ล่าสุด มีรายงานว่าชาวบ้านที่ทั้งเป็นเหยื่อและญาติเหยื่อมีความโกรธแค้น และเผยว่ามีคนรอรุมประชาทัณฑ์จำนวนมาก
โดยขณะนี้ นายณัฏฐ์ภณ อยู่ระหว่างการหลบหนี และจากการตรวจสอบ พบว่าภายในบ้านมียาดองจำนวนมาก ทั้งที่บรรจุขวดแล้ว และยังไม่บรรจุขวด แกลลอนเหล้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และโหลพลาสติกสำหรับดองเหล้าและรากไม้ต่าง ๆ ขณะที่ทางโรงพยาบาลชลบุรี แถลงผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและป่วยหนักนั้น ไม่เกี่ยวกับพิษคางคก แต่เป็นมาจากพิษของเมทานอล แอลกอฮอล์ชนิดเชื้อเพลิง ที่ไม่สามารถรับประทานได้ และนิยมใช้ในอุตสาหกรรม
นายสุทิศ เกสรชื่น หรือ มืด อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากการกินยาดองดังกล่าว เปิดเผยผลการตรวจร่างกาย ซึ่งแพทย์ระบุว่า อาการป่วยมาจากสารเมทานอล ที่พบว่ามีอยู่ในเลือดมากเกินไป ซึ่งได้ทำการล้างท้องและให้น้ำเกลือแล้ว โดยยอมรับว่าตอนกินยาดองคางคกไป 1 ขวด ตนรู้สึกแปลก รสชาติเฝื่อน ๆ ไม่มีกลิ่นเหล้า มีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดหน่อย ที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าลุงนัททำยาดองอย่างไร และไม่ยอมบอกว่าผสมอะไรบ้าง ซึ่งอยากให้ลุงนัทมารับโทษตามกฎหมาย
ขณะที่ น.ส.มาลี ดาวลอย ภรรยาของนายสุริยา หนึ่งในผู้ป่วย เปิดเผยว่า ตอนนี้สามียังอยู่ใน ICU หลังกินยาดองไป 3 วัน ก็เกิดอาการตาลาย อาเจียนเป็นเลือด ตอนนี้อาการดีขึ้นแต่พิษเข้าดวงตา อาจตาบอด ตนอยากให้ลุงนัทติดคุก เพราะทำคนเจ็บขนาดนี้ และทุกวันนี้ชาวบ้านก็รอที่จะรุมประชาทัณฑ์ ซึ่งหากมาขอโทษก็จะให้อภัย แต่เรื่องคดีก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ด้าน นางพวงทิพย์ ชูศรี ลูกสาวของนางบุญเรือง หนึ่งในผู้ป่วย เปิดเผยว่า แม่อายุ 78 ปี กินยาดองวันละกั๊ก จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีอาการหมดแรงจนต้องเข้า ICU ทั้งที่ปกติแข็งแรง ซึ่งตอนนี้ก็ 3 วันแล้วแม่ตนยังไม่ฟื้น ตนรู้สึกโกรธลุงนัทมาก ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มาลองกินยาดองของตัวเอง จะได้เป็นเหมือนคนที่เจ็บ และระบุว่า คนแบบนี้ต้องติดคุกนาน ๆ
ส่วนทางด้านนางสาวปณัฐชา หิรเดช อายุ 44 ปี เจ้าของร้านชำ เล่าว่า ตนเคยถูกลุงนัทขอฝากยาดองขายที่ร้าน แต่ได้ปฏิเสธไป โดยลุงนัทอ้างว่าถ้าขายได้ให้เอากำไรแบ่งกัน หลังจากตนปฏิเสธก็พบว่ามีการไปขอฝากขายกับแม่ค้าตลาดนัดด้วย
ที่มา ทุบโต๊ะข่าว