ชายอเมริกันฆ่าเมีย-ลูกเล็ก 4 คน หมกศพในรถ กลิ่นเน่าโชยจนคนมาเจอ
เลวี่ สตริคก์แลนด์ เกษตรกรในเขตแบรนต์ลีย์ รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิด เมื่อวิ่งไปดูก็พบรถตู้คันหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุบนถนน พร้อมส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงออกมา ตนจึงได้วิ่งไปดูและพบชายคนหนึ่ง
“ผมวิ่งไปที่เกิดเหตุแล้วถามชายคนนั้นว่าเขาโอเคมั้ย แล้วก็ได้กลิ่นเหม็น กลิ่นนั้นเลวร้ายมาก ผมไม่เคยได้กลิ่นอะไรเหม็นขนาดนี้มาก่อนในชีวิต” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุครั้งนั้น กลายมาเป็นการเปิดโปงการฆาตกรรมโหด ฆ่ายกครัวแม่ลูกสี่ที่หายตัวปริศนามาเป็นเดือน
และเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผานมาก็มีรายงานว่า ที่มาของกลิ่นเหม็นเน่าดังกล่าวนั้น มาจากซากศพที่เน่าของคาเซ โจนส์ หญิงวัย 32 ปี ที่ทางครอบครัวเพิ่งแจ้งความว่าหายตัวไป พร้อมกับลูก ๆ 4 คนของเธอ ส่วนชายคนที่ขับรถตู้ประสบอุบัติเหตุก็คือ ไมเคิล เวย์น โจนส์ จูเนียร์ วัย 38 ปี สามีของผู้ตาย พ่อของเด็ก ๆ และฆาตกรฆ่ายกครัวนั่นเอง
ไมเคิล เวย์น โจนส์ จูเนียร์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันทีที่มีการพบศพในรถของเขาที่ประสบอุบัติเหตุ และขณะนี้ก็ถูกจับกุมในข้อหาขับรถทั้งที่ถูกระงับใบขับขี่ และข้อหาหลบหนีกระบวนการยุติธรรม ก่อนจะมีการสอบสวนและตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาเพิ่มเติม
ไมเคิล เวย์น โจนส์ จูเนียร์ สารภาพว่า นอกจากศพภรรยาที่พบในรถแล้ว เขาเพิ่งนำศพลูกทั้งสี่คนที่มีอายุตั้งแต่ 1-10 ขวบไปฝังดินเพื่อปิดบังอำพรางศพ โดยได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปขุดศพขึ้นมาแล้ว
แม่ลูกสี่ครอบครัวนี้ มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 6 อาทิตย์ที่แล้ว ในเมืองโอคาลา รัฐฟลอริดา ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่รู้เบาะแส จนได้มีการแจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา
ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะฆาตกรรมเหยื่อขณะอยู่ในรัฐฟลอริดา จากนั้นก็เก็บศพไว้ในบ้านและในรถเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แล้วจึงใช้รถย้ายศพมายังพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐจอร์เจีย เพื่อฝังอำพรางศพ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนและคาดว่าจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมหลังจากนี้