หลังกรณีระเบิดป่วนกรุงถึง 9 จุด เมื่อสองวันที่ผ่านมา ทำให้ชาวกรุงหวั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย คงจะดีหากรู้ไว้ก่อนว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อเจอวัตถุต้องสงสัย หรือสิ่งที่แน่ใจว่าเป็นระเบิดแน่ๆ เพื่อให้ทั้งตัวเราเอง และคนรอบๆ ตัวในบริเวณนั้นปลอดภัย
วิธีสังเกต ‘วัตถุต้องสงสัย’ ว่าเป็นระเบิดหรือไม่
วัตถุต้องสงสัยนั้น อาจมาในรูปแบบหีบห่อ กล่องพัสดุ กล่องกระดาษ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเป้ ฯลฯ ที่สามารถนำระเบิดบรรจุมาได้ และจุดต่างๆ ที่ใช้สังเกตว่าเป็นระเบิดหรือไม่นั้น มีดังนี้
- เป็นสิ่งที่ไม่มีเจ้าของ
- ไม่เคยอยู่บริเวณนั้นมาก่อน
- วางในที่ที่ไม่ควรอยู่
- ลักษณะน้ำหนักมากเกินขนาด
- หากเป็นซอง จะมีลักษณะแข็ง พับงอไม่ได้
- มีสายไฟเล็กๆ ยื่นออกมาจากวัตถุชิ้นนั้น
- หีบห่อหนาแน่นเกินจำเป็น
- มีคราบน้ำมันหรือกระดาษของหีบห่อมีลักษณะซีดจาง
- มีการเขียนข้อความหรือติดภาพเรียกร้องความสนใจ
- มีแสตมป์ติดบนพัสดุมากเกินไป
- มีการทำเครื่องหมายพิเศษต่างๆ บนซองหรือหีบห่อ
- กรณีที่เป็นจดหมาย ลายมือที่จ่าหน้ามักจะสะกดผิดๆ ถูกๆ เขียนไม่เป็นระเบียบ บางครั้งก็เขียนตำแหน่งและยศของผู้รับผิด
- หากเรามีศัตรูหรือขัดแย้งกับใคร ควรตั้งข้อสงสัย และระมัดระวังวัตถุต้องสงสัยมากเป็นพิเศษ
สิ่งที่ควรทำ
- เมื่อพบวัตถุต้องสงสัย ตั้งสติและรีบออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที ห้ามแตะต้องวัตถุต้องสงสัยเด็ดขาด
- รีบโทรแจ้ง 191 ทันที หรือแจ้ง EOD (กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด) 02-296-1946
- พยายามอยู่ห่างจากจุดที่พบวัตถุต้องสงสัยอย่างน้อย 300 เมตรขึ้นไป โดยอยู่เหนือลม และยิ่งไกลยิ่งดี
- หากวัตถุต้องสงสัยเกิดประกายไฟหรือระเบิด รีบหากำบังที่หลบที่แข็งแรง
- หากอยู่ในบ้าน ปิดเครื่องปรับอากาศและสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด
- หากติดอยู่ในอาคาร ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดช่องประตูเพื่อป้องกันแก๊สพิษ
- หากเคลื่อนย้ายวัตถุดังกล่าวได้แล้ว ให้นำไปไว้ในที่โล่ง เช่น สนามหญ้า หรือในร่ม ระวังอย่าให้วัตถุต้องสงสัยหรือหีบห่อสัมผัสแสงแดดหรือความร้อนจัดโดยตรง จากนั้นนำยางรถยนต์มาครอบไว้หรือล้อมไว้ด้วยกระสอบทราย
ที่มา
กลุ่มงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) กก.ตชด.14
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
เฟซบุ๊กอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
