ข่าวภูมิภาค

มอบตัวแล้ว 2 ราย กลุ่มตุ๊กตุ๊กก่อเหตุยิงคนคุมกลุ่มเชียร์แขกดับที่ป่าตอง อ้างถูกตีก่อน แค่เข้าไปห้าม

จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของ วันที่ 23 มิ.ย.62 พ.ต.ท.สิทธิพล เจ้ยชุม สารวัตร(สอบสวน)สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบริเวณ ซ.ป่าตองทาวเวอร์ ถนน ทวีวงศ์ หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต สภาพนอนหงาย เลือดไหลนองพื้น โดยสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ มีกระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ ทราบชื่อภายหลังคือ นายปัญญา กิ่งจำปา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 /16 ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และจากการตรวจสอบโดยรอบพบซองปืนพกสั้นสีดำตกอยู่ จึงตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่รพ.ป่าตอง ซึ่งคณะแพทย์ได้นำเข้าเครื่องเอ็กซเรย์พบว่ามีหัวกระสุนฝั่งอยู่บริเวณช่องท้อง 1 นัด
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 23 มิถุนายน 2562 ที่สถานีตำรวจภูธรป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายณรงค์ หรือตั้ม เดินช่วยกิจ กับนายฉัตรชัย หรือบังเลาะ ดำเชื้อ สองผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง เพื่อมอบตัวสู้คดี โดยได้นำอาวุธปืนพกสั้น ขนาด.22 ของกลางที่ใช้ก่อเหตุมาเป็นของกลาง โดยมี ร.ท.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย กรมทหารราบที่ 25 (ชป.รส.ร.25) นายพัฒนพงศ์ เหนือคลอง ปลัดอำเภอกะทู้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมสอบปากคำ
พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ได้เหตุทะเลาะวิวาท เกิดการชกต่อย และใช้อาวุธยิงกันเสียชีวิต จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุชกต่อยกันคือ นายตั้ม หรือนายณรงค์ เดินช่วยกิจ กับนายปัญญา กิ่งจำปา เนื่องจากมีการโต้เถียงกัน และนายณรงค์ฯ ได้ไปตามนายฉัตรชัย ดำเชื้อ หรือบังเลาะ ซึ่งมีการพกพาอาวุธปืนมาด้วย เมื่อมาเริ่มแรกก็พยายามห้ามปราม แต่กลับถูกผู้เสียชีวิตทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บก่อน จึงได้ใช่อาวุธปืนที่พกพามายิงไปที่ผู้เสียชีวิต 1 นัด หลังเกิดเหตุก็ได้หลบหนีไป แต่ต่อมาได้รู้สึกนึกผิด จึงได้มีการติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอมอบตัว อันเนื่องมาจากถูกกดดันอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย คือปกครอง ทหารและตำรวจ ส่วนผู้ก่อเหตุคนอื่นๆ จากการสอบสวนจะเหลืออีก 1 คน ส่วนข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต
“สาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ ฝ่ายผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้เข้าไปพูดจาตักเตือนคนทางฝั่งของผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีพฤติกรรมคล้ายกับจะไปตบทรัพย์นักท่องเที่ยว จึงเกิดความไม่พอใจกันขึ้น จนนำมาสู่การทะเลาะวิวาท และเสียชีวิตในที่สุด โดยในส่วนของผู้เสียชีวิตจากการสอบสวน ทราบว่าไม่ใช่หัวหน้าวิน และไม่ได้เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง”
พ.ต.อ.อโณทัย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับผู้เสียชีวิตไม่ได้เป็นวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างแต่อย่างใด โดยมีอาชีพหาแขกหรือเชียร์แขก ซึ่งสิ่งที่เราต้องการคือ การสร้างความมั่นใจว่า มีความพร้อมในการดูแลคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเหตุทะเลาะกันเฉพาะหน้า และก่อเหตุขึ้นดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบปากคำนายตั้ม หรือนายณรงค์ฯ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุรู้จักกันแต่ไม่สนิทสนมกันเนื่องจากมีวินรถตุ๊กตุ๊กอยู่ตรงข้ามกัน และเห็นพฤติกรรมของสาวประเภทสองที่ผู้เสียชีวิตดูแลไปหากินกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีการล่อลวงตบทรัพย์ จึงได้เข้าไปตักเตือนด้วยความหวังดี เนื่องจากการหลอกลวงหรือตบทรัพย์นักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ไม่ดี ทำให้ฝ่ายของผู้เสียชีวิตไม่พอใจ จนเกิดการชกต่อยและใช้อาวุธยิงกันจนเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วน นายฉัตรชัย ดำเชื้อ หรือบังเลาะ หนึ่งได้ผู้เข้ามอบตัว กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดเรื่องหรือมีผู้เสียชีวิต แต่พอไปถึงก็ถูกผู้เสียชีวิตไล่ทำร้าย โดยใช้เหล็กตีเข้าที่ใบหน้า ซึ่งบาดแผลก็ยังมีอยู่เหตุที่เข้าไปก็เพื่อที่จะห้ามปราบไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้น แต่ด้วยผู้เสียชีวิตทำร้ายตนก่อนจึงเกิดอารมณ์โมโหขาดสติและตอบโต้ไป รวมทั้งอยากขอโทษผู้ตายและครอบครัว โดยหลังการให้ปากคำนายฉัตรชัยได้เปิดให้ดูร่อยรอยบาดแผล ที่บริเวณจมูก หลังมือทั้งสองข้าง และหัวเข่า เพื่อยืนยันว่าตนเองถูกทำร้ายก่อนจึงก่อนเหตุสลดขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button