กองทัพไทย ย้ำ หยุดยิงไม่กระทบต่ออธิปไตย ดำเนินการป้องกัน-เจรจาอย่างสมดุล

กองทัพไทย ย้ำ หยุดยิงไม่กระทบต่ออธิปไตยหรือจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นเขตแดน ดำเนินการป้องกัน-เจรจาอย่างสมดุล
พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กล่าวย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อมาตรการหยุดยิง ท่ามกลางการเผยแพร่ถ้อยแถลง และข้อความจากฝ่ายกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าการดำเนินการของรัฐบาลและกองทัพไทยยึดหลักความรับผิดชอบ ความรอบคอบ และมาตรฐานสากลเป็นสำคัญ
เป้าหมายสูงสุดของประเทศไทยคือการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน การปกป้องอธิปไตยของชาติ และการลดความสูญเสียของทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยได้เข้าร่วมมาตรการหยุดยิงทันที ณ จุดที่ตั้ง มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 68 เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน
อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิ อธิปไตย หรือจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นเขตแดน และไม่ถือเป็นการยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงใด ๆ ในพื้นที่ โดยรัฐบาลและกองทัพไทยยังคงตรึงกำลัง เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและกลไกที่ตกลงร่วมกัน หากมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหรือการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ย้ำว่า ประเทศไทยยึดข้อเท็จจริง หลักฐาน และกลไกตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเป็นฐานในการดำเนินการ และสนับสนุนบทบาทของกลไกที่ตกลงร่วมกัน เพื่อให้การหยุดยิงเป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และนำไปสู่การลดความตึงเครียดอย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยและมีวุฒิภาวะ โดยยืนยันว่าประเทศไทยจะสื่อสารข้อมูลอย่างรอบคอบ ต่อเนื่อง และตรงไปตรงมา เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ควบคู่กับการรักษาความเชื่อมั่นของประเทศในเวทีระหว่างประเทศ และการดูแลความมั่นคงของชาติ
ประเทศไทยยืนยันว่า การเจรจา การหยุดยิง และการป้องกันประเทศ จะดำเนินควบคู่กันอย่างสมดุล เพื่อมุ่งสู่สันติภาพที่ยั่งยืน โดยไม่ลดทอนศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ
ทั้งนี้ ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ได้ชี้แจงกรณีถ้อยแถลงของผู้นำกัมพูชา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของประชาชน โดยระบุว่า กรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างว่าถูกรุกราน จะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบด้านภาพลักษณ์แต่อย่างใด เนื่องจากประเทศไทยไม่แข่งขันด้วยถ้อยคำหรือการกล่าวหา แต่ยึดข้อเท็จจริง หลักฐาน และกลไกตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงเอกสารร่วมและกรอบความร่วมมือที่มีอยู่ เป็นฐานในการดำเนินการ
สำหรับกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาย้ำว่าการหยุดยิงไม่กระทบต่อเส้นเขตแดน พล.อ.อ.ประภาส ระบุว่า ประเทศไทยยึดหลักเดียวกัน คือ without prejudice โดยการหยุดยิงไม่กระทบต่อสิทธิ อธิปไตย หรือจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นเขตแดน และให้กลไกทางเทคนิคที่ตกลงร่วมกัน เช่น คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ยอมให้การหยุดยิงถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในพื้นที่
พล.อ.อ.ประภาส ย้ำทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากเอกสารทางการของรัฐ และรายงานจากแหล่งที่สามารถตรวจสอบได้เป็นหลัก เพื่อป้องกันความสับสน ความเข้าใจคลาดเคลื่อน และการบิดเบือนข้อมูลในสถานการณ์ปัจจุบัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ฮุน มาเนต” ร่ายยาว กัมพูชาหยุดยิงไม่ได้แปลว่ายอมแพ้ เป็นการแสดงแนวทางสันติ
- “ทรัมป์” ชื่นชม “ไทย-กัมพูชา” เซ็นหยุดยิง อัด “UN” ไร้ประสิทธิภาพ
- กองทัพตอบ ชาวกัมพูชากลับเข้าบ้านหนองจานไม่ได้ ตามข้อตกลงหยุดยิง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





