คุกอ่วม! ศาลสั่งจำคุก ประสิทธิ์ เจียวก๊ก เพิ่ม 1,210 ปี คดีฉ้อโกงประชาชน
ศาลอาญาพิพากษาคดีที่ 2 ชี้ผิดจริง 242 กระทง หลอกร่วมลงทุน คืนคุณแผ่นดิน สั่งปรับบริษัท-พวกนับล้าน พร้อมชดใช้เหยื่อ 267 ราย ย้อนรอยคดีเก่าเคยโดนไปแล้วพันกว่าปี
วันที่ 26 ธันวาคม 2568 ศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยคนสำคัญ ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากพฤติการณ์ชักชวนประชาชนร่วมลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
จำเลยในคดีนี้มีรวม 6 ราย ประกอบด้วย นิติบุคคลอย่าง บริษัท เหนือโลก จำกัด, บริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด (มหาชน) และบุคคลธรรมดา ซึ่งรวมถึงนายประสิทธิ์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจและอดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-3 (กลุ่มบริษัทและนายประสิทธิ์) กระทำความผิดจริงตามฟ้อง โดยเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกัน
ศาลลงโทษนายประสิทธิ์ รวม 242 กระทง กระทงละ 5 ปี สิริรวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 1,210 ปี สั่งปรับบริษัทจำเลยเป็นเงินหลักร้อยล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) ระบุว่าเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว สำหรับความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี โทษจำคุกรวมสูงสุดที่จะบังคับใช้จริงต้องไม่เกิน 20 ปี ทำให้ในทางปฏิบัติ นายประสิทธิ์จะได้รับโทษจำคุกจริงในคดีนี้เพียง 20 ปี
นอกจากนายประสิทธิ์ ศาลยังพิพากษาลงโทษจำเลยที่เป็นคนสนิท ในฐานความผิดสนับสนุนการกระทำผิด โดยมีโทษจำคุกรวมกว่า 100 ปี แต่เมื่อปรับเข้ากับเกณฑ์กฎหมายแล้ว ให้คงโทษจำคุกจริงไว้ที่ 20 ปีเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้วันที่ 3 ก.ค. 2566 ศาลอาญาเคยพิพากษาคดีฉ้อโกงอีกคดีของประสิทธิ์ โดยระบุพฤติการณ์ชักชวนลงทุนเกี่ยวกับการซื้อขายหรือปล่อยเช่าสินค้าแบรนด์เนม เสนอผลตอบแทนสูง และมีผู้เสียหาย 321 คน ความเสียหาย มากกว่า 1,000 ล้านบาท ศาลลงโทษจำคุก 1,155 ปี และปรับหลัก 145 ล้านบาท แต่คงโทษจำคุกจริงตามกฎหมาย ไม่เกิน 20 ปี พร้อมสั่งชดใช้ค่าเสียหายคืนผู้เสียหาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดประวัติ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” เจ้าสัวคนดี หลังถูกจับกุม เหตุหลบหนีตอนขึ้นศาล
- ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ เจอคุกอ่วม 1,115 ปี ปรับอีก 145 ล้าน ข้อหาฉ้อโกง
- ประสิทธิ์ เจียวก๊ก หลบหนีตอนขึ้นศาล ตำรวจตามจับได้แล้ว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



