ข่าว

กองทัพภาค 2 ทำพิธีส่งร่าง 4 ทหารกล้าจากเนิน 677 กลับภูมิลำเนา

กองทัพภาคที่ 2 ทำพิธีส่งร่างทหารกล้า 4 นาย จากเนิน 677 กลับภูมิลำเนา สดุดีเป็นผู้เสียสละปกป้องอธิปไตยของไทย

วันที่ 14 ธ.ค.2568 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ณ มณฑลทหารบกที่ 22 ได้มีการประกอบพิธีส่งศพทหารกล้า จำนวน 4 นาย ผู้สละชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณพื้นที่เนิน 677 ช่องอานม้า กลับสู่ภูมิลำเนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, กระบี่ และนราธิวาส เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ ณ กองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี

ในส่วนของรายนามทหารกล้า สังกัด กองพันจู่โจม ที่ส่งกลับในครั้งนี้ ประกอบด้วย

1.พลทหาร มุสตากีม เจ๊ะมะ

ภูมิลำเนา : สุสานบ้านสุแฆ ตำบลดุซงยอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
(มณฑลทหารบกที่ 46)

2.จ่าสิบเอก ทวีรัตน์ รัตนบุรี

ภูมิลำเนา : โรงเรียนบ้านถ้ำโกบ หมู่ที่ 2 ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ (มณฑลทหารบกที่ 43)

3.จ่าสิบเอก ดำรงค์เกียรติ แก้วกระจ่าง

ภูมิลำเนา : ลงที่ พล.รพศ.1 วัดหลวงพ่อเขียว อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (มณฑลทหารบกที่ 18)

4.พลทหาร กฤตฏิกร สร้อยระย้า

ภูมิลำเนา : วัดหนองตะคลอง ตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี (มณฑลทหารบกที่ 17) สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ขอสดุดีและรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของทหารกล้าทั้ง 4 นาย ผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอธิไตยของชาติ ความกล้าหาญและความเสียสละจะคงอยู่ในหัวใจของคนไทยตลอดไป

พิธีส่งศพทหารกล้า กลับภูมิลำเนา
ภาพ @กองทัพภาคที่ 2
ภาพ @กองทัพภาคที่ 2
ภาพ @กองทัพภาคที่ 2
ภาพ @กองทัพภาคที่ 2

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2568 (เวลา 09.00 น.) โดยรายงานสถานการณ์ตั้งแต่เวลา 1800 น. เป็นต้นมา จนถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ตามแนวชายแดนมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง มีการปะตลอดทั้งคืน ฝ่ายกัมพูชาได้เพิ่มระดับการใช้กำลัง โดยเสริมปืนใหญ่ และจรวด BM-21 หลายพื้นที่ พร้อมตรวจพบ UAV และโดรน FPV อย่างต่อเนื่อง

ฝ่ายเราตอบโต้เชิงรุกตามแผนอย่างเหมาะสม มุ่งทำลายขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในจุดสำคัญ โดยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และกำลังพลฝ่ายเราส่วนใหญ่ปลอดภัย โดยมีเหตุการณ์สำคัญดังนี้

พื้นที่ช่องคานม้า พระวิหาร และตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จว.ศรีสะเกษ : ตรวจพบการเสริมกำลังของฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค.,ปืนใหญ่ และ BM-21 ฝ่ายเราทำการยิงปืนใหญ่ทำลายเป้าหมาย รวมทั้งสามารถยิงทำลายรถบรรทุกของฝ่ายกัมพูชาได้ 1 คัน

พื้นที่ช่องคนา อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์ : ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค.,ปืนใหญ่, BM-21 และอากาศยานไร้คนขับทั้งแบบทิ้งระเบิด และFPV ฝ่ายเราเสริมความมั่นคงในพื้นที่ และปฏิบัติตามแผนต่อไป
พื้นที่ปราสาทตาควาย อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์ : ฝ่ายกัมพูชาโจมตีด้วย ค. ใส่ฝ่ายเรา ฝ่ายเรายิงตอบโต้ตามสถานการณ์ พร้อมทั้งใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AGL ยิงทำลาย บก.ร้อย.1 พัน.ร.444 ของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ คลังกระสุนของฝ่ายกัมพูชาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ฝ่ายเราไม่ได้รับความเสียหาย กำลังพลปลอดภัย

พื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จว.สุรินทร์ : ฝ่ายกัมพูชามีการใช้พลซุ่มยิง, ปืนใหญ่ และจรวด BM-21 ยิงเข้าพื้นที่ฝ่ายเรา ฝ่ายเราทำการตรึงตลอดพื้นที่การวางกำลัง และตอบโต้ตามเหตุการณ์

กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อไป.

อ่านข่าวชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button