ข่าว

กัน จอมพลัง ทิ้งงานไลฟ์ รุดส่งโดรน-เสบียงหนุนแนวหน้า เร่งช่วยชาวบ้านอพยพ

กัน จอมพลัง ยอมทิ้งงานไลฟ์ด่วน รุดส่งโดรน-เสบียงช่วยทัพหน้าหลังชายแดน เผยเจ็บเป็นล้านต่อวัน แต่ห่วงทหารแนวหน้า อยากให้กลับบ้านไปเจอครอบครัว กองทัพภาค 2 ยันทำลายกระเช้าเนิน 350 แล้ว

หลังจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดการปะทะกันอีกครั้งส่งผลให้มีทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ล่าสุด กัน จอมพลัง ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเป็นห่วง ระบุว่า “ด่วนชายแดนเปิดปะทะเต็มรูปแบบ ชาวบ้านท่านใดต้องการอพยพแจ้งมาได้เลยครับและผมขอเลื่อนคิวที่ลูกค้าจ้างผม live ขอโทษลูกค้าอย่างสูงครับผมกำลังนำโดรนและของไปเติมให้ริมชายแดนครับ”

พร้อมคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวขอเลื่อนคิวงานไลฟ์สด เพราะเป็นห่วงทหารแนวหน้า และอยากให้ทุกคนกลับไปเจอหน้าครอบครัวอีกครั้ง “ผมเลื่อนคิวถ้าลูกค้าเค้ายกเลิก live ปล่อยของผม ผมจะเจ็บเป็นล้านต่อวัน ผมรักลูกค้าทุกคนครับแต่รอบนี้จำเป็นมาก ๆ ผมห่วงน้อง ๆ หน้าแนวอยากให้ทุกคนได้กลับบ้านไปเจอครอบครัวทุกคน ผมขอโทษเจ้าของแบรนด์ทุกท่านอีกครั้งครับ”

กัน จอมพลัง เดินหน้าช่วยชายแดนไทย
ภาพจาก Facebook : กันจอมพลัง ช่วยสู้

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า กระเช้าเนิน 350 ทางด้านทิศตะวันตกปราสาทตาควาย ระยะ 300 เมตร ถูกทำลายเรียบร้อย เมื่อ 8 ธันวาคม 2568 เวลา 09.20 น. พร้อมเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ราชการที่สำคัญและป้องกัน ขัดขวาง การปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามที่มุ่งสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สิน

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่ากัมพูชาทำการยิงด้วย BM21 ลงพื้นที่บ้านเรือนประชาชนฝั่งไทย บ้านสายโท 10 อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย

อย่างไรก็ดี วันนี้ 03.00 น. พบว่าฝ่ายกัมพูชากำหนดเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนมายังฝั่งไทยในพื้นที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์เวลา 0500 น. ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงมายังแนวการวางกำลังของฝ่ายไทยในพื้นที่ช่องอานม้า จึงทำการยิงตอบโต้ตามกฎการปะทะ ซึ่งกำลังพลปลอดภัย

ต่อมา เวลา 06.00 น. กัมพูชาใช้อาวุธยิงวิถีโค้งระดมยิงในพื้นที่ช่องอานม้า ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน มีประชาชนในพื้นที่อำเภอตามแนวชายแดน อพยพออกจากพื้นที่แล้วประมาณร้อยละ 70 มีผู้ที่ลงทะเบียนเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว จำนวน 35,623 ราย คาดว่าประชาชนบางส่วนเดินทางไปพักอาศัยที่บ้านญาติ และที่เหลืออยู่ระหว่างการเดินทางเคลื่อนย้าย ในระหว่างการอพยพมีประชาชนเสียชีวิต 1 ราย ด้วยโรคประจำตัวในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button