ข่าวข่าวภูมิภาค

ชาวเลราไวย์ รวมตัวหน้าสภ.ฉลอง ให้กำลังใจ 2 ชาวเลหลังถูกจับฐานบุกรุกฯ

ชาวเลราไวย์กว่า 100 คน เดินทางไปรวมตัวหน้าสภ.ฉลองเพื่อให้กำลังใจสองชาวเลที่ถูกจับกุมตามหมายจับฐาน บุกรุกฯ หลังถูกผู้อ้างกรรมสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีในพื้นที่พิพาทหน้าหาดราไวย์
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (1 เม.ย.62 )ที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง กลุ่มชาวเลราไวย์ประมาณ 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจ นางสาว วีรวรรณ หาดทรายทอง อายุ 36 ปี และนาง บุญใจ พลรบ อายุ 56 ปี สองชาวเลราไวย์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ตและชุดสืบสวนสภ.ฉลองร่วมจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ/2558 คดีอาญาที่ 234/2559 และหมายจับที่ จ320/2559 หลังตกเป็นผู้ต้องหา ในคดี “ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์เข้าโดยปกติสุข โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคน” โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ในที่ดินโฉนดเลขที่ 12592 เล่ม 78 หน้า 13 ม.2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต
ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 16.00 น.เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งสองราย อยู่ในพื้นที่หาดราไวย์จึงได้เข้าแสดงหมายจับและชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวเล ก่อนเชิญตัวทั้งสอง มายังกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัด และส่งกลับไปยังสภ.ฉลองเพื่อทำบันทึกจับกุม และหลังจากที่ทำบันทึกจับกุมเสร็จ พนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ใช้หลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวชาวเลทั้งสองได้ชาวเลส่วนใหญ่ก็ได้ทยอยเดินทางกลับ


สำหรับคดีดังกล่าว เป็น 1 ในคดีพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างชาวเล และผู้อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่หาดราไวย์ ซึ่งที่ดินดังกล่าว(โฉนดเลขที่ 12592 เล่ม 78 หน้า 13 ม.2 ต.ราไวย์) ปัจจุบันเป็นอาคาร 3 ชั้น มีชาวเล(ผู้ถูกดำเนินคดี 2 ราย)อาศัยอยู่โดยอ้างตามสิทธิ์ครอบครองพื้นที่มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ขณะเดียวกันก็มีผู้ออกเอกสารสิทธิ์และขายต่อหลายทอด จนกระทั่ง เอกสารสิทธิ์ตกไปอยู่กับสถาบันการเงิน ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี และมีการขายทอดตลาด และต่อมาได้มีผู้ซื้อรายใหม่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนแจ้งความดำเนินคดีกับชาวเลดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของพี่น้องชาวเลซึ่งเป็นผู้นำหมู่บ้านจะมีการพูดคุยหารือกันภายใน รวมถึงพูดคุยกับทนายความ เพื่อเตรียมหลักฐานสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button