บทสัมภาษณ์พิเศษ “คาสเปอร์ ฮูลมันด์” กุนซือไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พร้อมเผยแนวทางการพัฒนาทีม

บทสัมภาษณ์สุดพิเศษ คาสเปอร์ ฮูลมันด์ (Kasper Hjulmand) เจ้านายใหญ่ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พร้อมเผยแนวทางการพัฒนา และเป้าหมายของทีมในอนาคต

Q: ตั้งแต่คุณเข้ามาคุมทีม Leverkusen ทีมก็เป็นทีมที่มีผลงานดีที่สุดเป็นอันดับสองในลีก โดยมีคะแนนตามหลัง Bayern เพียงแค่ 3 แต้ม คุณพบกับความท้าทายอะไรบ้างในช่วงเริ่มต้นและการปรับตัวในระยะแรก?
A: ผมเพิ่งมาถึงทีมในวันพุธ แล้วเราก็ต้องลงแข่งในวันศุกร์ จากนั้นก็มีเกมทุกๆ 3 วันแทบจะตลอดเวลา เราแทบไม่ได้มีเวลาซ้อมเลยครับ ทีมก็เป็นทีมใหม่ที่มีนักเตะเพิ่งเข้ามาถึง 75% ผมยังไม่ค่อยรู้จักนักเตะหรือทีมงานเลย ทุกอย่างมันใหม่หมด
ความท้าทายใหญ่คือการพยายามชนะเกม พร้อมกับสร้างทีมให้เข้ากับแนวคิดและวิสัยทัศน์ของผม โดยไม่มีโอกาสได้ซ้อมหรือเตรียมทีมช่วงพรีซีซั่น เราต้องค่อยๆ ปรับทีมไปทีละเล็กทีละน้อย หาจุดเด่นที่มีอยู่แล้ว และคิดว่าจะเสริมอะไรได้บ้างมันเหมือนกับการเริ่มต้นด้วยความเร่งรีบ และทุกอย่างก็ยังคงเป็นความท้าทายอยู่จนถึงตอนนี้ ตารางแข่งแน่นมาก และตัวผู้เล่นเองก็เพิ่งรวมตัวกันใหม่ ผมไม่ได้หมายความว่าทุกคนเป็นนักเตะใหม่ แต่เรายังใหม่ในการทำงานร่วมกัน การสร้างทีมมันไม่ได้เกิดขึ้นในทันที มันต้องใช้เวลา และนี่คือสิ่งที่ท้าทายที่สุดครับ
Q: คุณทำอย่างไรให้ Bayer Leverkusen กลับมาเป็นทีมระดับท็อปอีกครั้ง? คุณให้ความสำคัญกับอะไร ทั้งในเชิงกลยุทธ์และในด้านความสัมพันธ์กับผู้เล่น?
A: สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ตัวตนของสโมสร ซึ่งมีปรัชญาและแนวทางการเล่นที่ชัดเจนอยู่แล้วจากช่วงเวลาที่เคยประสบความสำเร็จในอดีต ทั้งในเรื่องการฝึกซ้อมและรูปแบบการเล่น ผมมองว่าหน้าที่หลักของผมคือการเสริมสิ่งนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น และสร้างกรอบการทำงานที่ชัดเจนให้กับนักเตะ เพื่อทำให้พวกเขาสามารถเล่นได้อย่างอิสระภายใต้ปรัชญานั้น
จากจุดนี้ ผมพยายามหาส่วนผสมที่ลงตัวในสนาม ค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับนักเตะที่เรามี และทำงานไปทีละเกม พร้อมเรียนรู้จากเกมก่อนหน้า เรามีช่วงเวลาที่เล่นได้ดีมากในหลายเกม แต่ก็ยังมีจุดที่เราต้องปรับปรุง มันคือการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสโมสรนี้คือ สไตล์การเล่นที่ต้องมีความทะเยอทะยาน เราต้องเล่นเกมรุก คว้าบอลกลับมาให้เร็วที่สุด เล่นด้วยความเข้มข้น และพยายามครองบอลให้ได้ นี่คืออัตลักษณ์ของสโมสร และผมก็ตั้งใจทำให้มันชัดเจนขึ้น เริ่มต้นด้วยความเรียบง่าย มีโครงสร้างชัดเจน เราหวังว่าจะสามารถต่อยอดไปได้ไกลกว่านี้ครับ

Q: Bayer Leverkusen ทำผลงานได้ดีมากในเรื่องการครองบอล การชนะดวลตัวต่อตัว และยังยิงประตูได้เยอะจากจังหวะเปลี่ยนเกม คุณมองแนวโน้มเหล่านี้อย่างไร?
A: ผมคิดว่าเรากำลังเดินมาถูกทางนะครับ แต่เราก็ยังอยู่ในช่วงที่ต้องรับมือกับความกดดันจากการแข่งที่ถี่มาก เราเพิ่งเล่นไป 7 เกมใน 3 สัปดาห์ และตอนนี้เรามีอีก 8 เกมในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นบาดเจ็บจำนวนมากที่เข้าและออก ดังนั้นจึงต้องบริหารจัดการภาระงานระหว่างนั้นด้วย
ในแง่ของตัวเลข สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าแต่ละช่วงของเกมมันเชื่อมโยงกันหมด ถ้าเราอยากได้บอลกลับมาเร็วหลังจากเสียบอล มันต้องเริ่มจากการจ่ายบอลสั้นในแดนคู่แข่ง เพราะเมื่อเราเสียบอล เราจะอยู่ใกล้จุดที่จะคว้ามันกลับมาได้ ถ้าเราเล่นบอลยาวหรือเกมที่เปิดมากเกินไป มันจะยากที่จะได้บอลคืน
เพื่อให้เราทำเกมได้ดีขึ้น เราต้องทำให้ดีกว่าเดิมในเรื่องการพาบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย และสร้างจังหวะจ่ายบอลให้มากขึ้น เพื่อที่เมื่อเสียบอล เราจะอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะคว้ามันกลับมาได้ หลายทีมในบุนเดสลีกาตอนนี้เริ่มเล่นเกมรับแบบตัวต่อตัวเยอะขึ้น มันทำให้เกมดูดุเดือดขึ้น คุณสามารถโจมตีพื้นที่ว่างได้รวดเร็วและตรงไปตรงมา เราเลยต้องปรับตัวให้เข้ากับคู่แข่งแต่ละทีม พร้อมยังคงรักษาปรัชญาการเล่นของเราไว้ครับ
Q: ตอนนี้ในทีมของคุณมีผู้เล่นคนไหนที่สำคัญที่สุด และใครที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ?
A: นักเตะที่มีประสบการณ์ในทีมช่วยได้เยอะมาก พวกเขาทำหน้าที่ได้ดีในการช่วยให้นักเตะใหม่ปรับตัวและแสดงศักยภาพออกมา
Mark Flekken ทำผลงานได้ดีในตำแหน่งผู้รักษาประตู ด้านแนวรับ Edmond Tapsoba ที่อยู่กับทีมมานาน กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง Loïc Badé ที่แม้จะเพิ่งเข้ามาใหม่แต่ก็มีประสบการณ์ที่ช่วยทีมได้
Robert Andrich เป็นอีกคนที่ทำงานหนักในสนามซ้อมทุกวันเพื่อรักษาระดับของทีม ส่วน Aleix García ก็ยกระดับเกมของเขาขึ้นมา โดยมีบทบาทสำคัญในเรื่องจังหวะการเล่นและการจ่ายบอล นอกจากนี้ Grimaldo ก็อยู่ในฟอร์มที่ดีมาก เราให้เขาเล่นแบบอิสระในบทบาทหมายเลข 10 ที่เข้ามาจากฝั่งซ้าย
Patrik Schick และ Jonas Hofmann ก็เติบโตขึ้นในทีมของเรา เมื่อมีนักเตะที่มีประสบการณ์เหล่านี้อยู่ คุณจะเห็นว่านักเตะดาวรุ่งในทีมสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับเกมของพวกเขา ผมคิดว่าเรามีนักเตะหลายคนที่ก้าวขึ้นมารับผิดชอบในจุดนี้ครับ
Q: คุณคิดว่าความพ่ายแพ้ต่อบาเยิร์นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้หรือเปล่า? ช่องว่างระหว่าง Bayern กับ Bayer มันใหญ่แค่ไหน?
A: ช่องว่างระหว่างเรากับ Bayern มีจริงครับ และการแพ้ในเกมนั้นก็เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก โดยเฉพาะ 3 ประตูที่เราเสียไป ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นกับรูปแบบการเล่นของเรา เรายังมีสิ่งที่ต้องไล่ตามอยู่ และมันน่าเสียดายที่มีนักเตะบางคนบาดเจ็บยาว แต่ถึงจะมีช่องว่างตรงนี้ ผมก็ยังมองเห็นศักยภาพในทีมของเรา และเชื่อว่าเรามีโอกาสยกระดับการเล่นของเราได้อีกเยอะตอนนี้เรากำลังทำงานหนักเพื่อไล่ตามช่องว่างนั้นให้เร็วที่สุด แต่ด้วยตารางแข่งที่แน่นมากในช่วงนี้ มันก็เป็นความท้าทายที่ใหญ่มากเช่นกัน
ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าผมเห็นศักยภาพในทีมชุดนี้ ทั้งในฤดูกาลนี้และฤดูกาลหน้า เราจะพยายามพัฒนาเกมรุกของทีมให้ดีขึ้น และยกระดับคุณภาพของเราให้ได้มากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เรายังมีช่องว่างที่ต้องไล่ตามอยู่ครับ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





