เตือนภัยน้ำท่วมภาคใต้ ไฟรั่วดูยังไง ? ก่อนสายเกินไป
เตือนภัยน้ำท่วม ไฟรั่วดูยังไง ก่อนสายเกินไป น้ำท่วมต้องระวัง! ไฟดูดตายได้ในพริบตา มาดูวิธีสังเกตง่ายๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่คุณรัก
วานนี้ (24 พ.ย.68) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thammarong Wongsamphan ได้แนะนำข้อมูลเตือนภัยช่วงสถานการณ์น้ำท่วมสูงและหนักจนประชาชนจำนวนมากต้องลุยน้ำเพื่อไปยังศูนย์พักพิงในพื้นที่ใกล้เคียงของหลายๆ จังหวัดทางภาคใต้ซึ่งตอนนี้ทั้งสงขลาและตรัง ต่างประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว
โดยล่าสุดในส่วนของผู้ใช้บัญชีโซเชียลดังกล่าว เปิดรายละเอียดของวิธีป้องกันหลักๆ ด้วยกันดังนี้
1. ตาดู – เห็นน้ำบุ๋งๆ มีฟองอากาศใกล้เสาไฟ หรือสัตว์เลื้อยคลาน ปลาตายเกลื่อนบริเวณนั้น ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด!
2. กายสัมผัส – ถ้าลุยน้ำแล้วรู้สึกชา “จี๊ดๆ” เหมือนมดกัดที่ขา ให้หยุดเดินทันที!
3. ทางรอด – รวบเท้าชิดกัน แล้ว “กระโดดคู่” ถอยหลังออกมา อย่าก้าวยาว!
ถ้ามี “ไขควงวัดไฟแบบไม่สัมผัส” ให้ใช้จุ่มเช็กน้ำนำทางไปก่อน ปลอดภัยที่สุด มีสติ-สับคัทเอาท์เมื่อน้ำมา ปลอดภัยไว้ก่อน
ขณะที่วันนี้ (25 พ.ย.68) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 5/2568 ผ่านระบบออนไลน์จาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ณ ทำเนียบรัฐบาลและผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มายังจังหวัดสงขลา
โดยมีนายธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้แทนเหล่าทัพ หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมในพื้นที่ ณ ห้องประชุมกองบิน 56 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังมีความน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝนยังตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั่วบริเวณพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่และพื้นที่โดยรอบของอ.หาดใหญ่
นายอนุทิน นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ จึงมอบหมายให้ นายธรรมนัส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระเทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาสนับสนุนการจัดการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยหลังจากประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินฯ คณะส่วนหน้าที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ประชุมวางแผนการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี
เบื้องต้นข้อมูลในพื้นที่จาก สทนช. และกรมชลประทาน พบว่า วันนี้ (25 พ.ย. 65) จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งจุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือบริเวณบ้านม่วงก๊อง อ.สะเดา บริเวณบ้านบางศาลา อ.หาดใหญ่ บริเวณคลองหวะ และบริเวณบ้านหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ ที่จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับการวางแผนให้การช่วยเหลือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นายธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระเทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ได้วางแผนการแบ่งโซนนิ่งการสนับสนุนทรัพยากรช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมอบให้ทัพภาค 4 ดูแลพื้นที่ฝั่งตะวันออกของคลองอู่ตะเภา และคลอง ร.1 อำเภอหาดใหญ่ ประกอบด้วย
- พื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่
- เทศบาลเมืองคลองแห
- เทศบาลเมืองคอหงส์
ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะรับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 ประกอบด้วย ตำบลควนลัง อ.หาดใหญ่ ตำบลคลองหอยโข่ง ตำบลคลองหลา ตำบลทุ่งลาน อำเภอคลองหอยโข่ง จ.สงขลา และบางส่วนของพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่
การปฏิบัติงานในสถานการณ์ปัจจุบันที่ระดับน้ำเพิ่มสูงและมีความเชี่ยวรุนแรงจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลสาธารณภัยและทรัพยากรเฉพาะด้านเพิ่มขึ้น เพื่ออพยพเคลื่อนย้ายประชาชน ลำเลียงส่งมอบอาหารให้แก่ผู้ประสบภัย และที่สำคัญนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน และเคลื่อนย้ายผู้ที่เจ็บป่วยออกจากพื้นที่ รวมถึงเคลื่อนย้ายผู้ที่ติดค้างในอาคารบ้านเรือนไปยังจุดปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวรุนแรง ทำให้รถยกสูงและเรือท้องแบนไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ ปภ. จึงสั่งการด่วนให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ นำเจ็ตสกีเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงาน คาดว่าจะเข้าถึงพื้นที่ในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งจะร่วมปฏิบัติงานกับสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยและอาสาสมัครมูลนิธิในพื้นที่
รวมถึงขณะนี้ได้ให้ “เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32” มาสนับสนุนภารกิจในพื้นที่เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 ลำ โดยจะประกอบกำลังร่วมกับอากาศยานปีกหมุนของกองทัพบก และกองทัพอากาศ หากสภาพอากาศเอื้ออำนวยอากาศยานปีกหมุนของทุกหน่วยงานจะเดินหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือทางอากาศยานทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในศูนย์พักพิงชั่วคราวพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ได้มีประชาชนอพยพมาอยู่ที่เพิ่มมากขึ้น ปภ. ได้สั่งการให้รถโรงครัวประกอบอาหารเคลื่อนที่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม จำนวน 2 คัน เพื่อดูแลด้านการดำรงชีพ อาหารร้อน น้ำดื่มสะอาด ให้แก่ประชาชน ซึ่งจะมาถึงในพื้นที่ช่วงเย็นวันนี้เช่นเดียวกัน และทีม ปภ. จะกระจายกำลังประจำจุดปฏิบัติภารกิจตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้รับมอบตามภารกิจ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในวันนี้เป็นไปตามแผนเผชิญเหตุที่สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้น.







ติดตาม The Thaiger บน Google News:





