บันเทิง

หมอกลาง เปิดใจครั้งแรก เคยท้อแท้-ฝืนทั้งน้ำตา ยันสร้างแบรนด์ด้วยใจ ปมอ้างฮุบบริษัท

‘หมอกลาง’ ชี้แจงปมถูกอ้างฮุบบริษัท เผยรู้สึกตกใจแต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยันสร้างแบรนด์ด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ แต่ถูกกระทำหลายครั้ง ฝืนทำงานทั้งน้ำตา ขอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

หลังจากที่ เม พรีมายา หรือ พิชญ์นรี ตันติวิทย์ CEO สาวคนดัง ได้แชร์เรื่องราวเคยเจอปัญหาใหญ่ในชีวิตจนทำให้ต้องถอนตัวออกจากทุกบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ โดยฝากหุ้นไว้ในชื่อของคนสนิท อ้างว่าถูกฮุบกิจการที่มีมูลค่ามหาศาลโดยคนที่ไว้ใจ

ล่าสุด หมอกลาง เจ้าของหนึ่งในคลินิก Dermatige Aesthetics ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงในมุมของตนเองผ่านเฟซบุ๊ก พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ ของแทร่ ระบุว่า “จากเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจทั้งกับทีมงานคนไข้ และ FC .. พี่หมอเองก็ตกใจและไม่เคยนิ่งนอนใจเลย ที่ผ่านมาพี่หมอและทุกคน รวมถึงทีมงานสร้างแบรนด์ด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ แต่ถูกกระทำหลายครั้ง ท้อแท้ ฝืนทั้งงานทั้งน้ำตามากมาย จนต้องขอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ต้องมาเจอวิธีการแบบนี้ หวังว่าทุกคนจะรับฟังด้วยใจเป็นธรรมนะครับ ตอนนี้สู้มาก ๆ เพื่อน้อง ๆในบริษัทพี่หมอทุกคน”

หมอกลางโพสต์แล้ว ปมดราม่าฝากหุ้นบริษัท
ภาพจาก : พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ ของแทร่

ขณะเดียวกัน เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์ ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก Dermatige Aesthetics ระบุว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมีเดีย คลินิกฯ จึงขอออกแถลงการณ์ ณ วันที่ 22 กันยายน 2568 (พร้อมแนบแถลงการณ์ฉบับลายลักษณ์อักษรตามที่ปรากฏนี้) แถลงการณ์ชี้แจงความจริง

จากกรณีพาดพิงทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆของบุคคล(อินฟลูเลนเซอร์ท่านหนึ่ง) ซึ่งสร้างผลกระทบให้เกิดความเข้าใจผิดบิดเบือนความจริงทำให้ทางแบรนด์คลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) เสียหายโดยอยู่ระหว่างดำเนินคดีอาญาและอื่น ๆ ซึ่งศาลฯ มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีมีมูลไปแล้ว 1 คดีจากการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายก่อนนี้ แต่กลับให้ข้อมูลเท็จบิดเบือนทำให้แบรนด์คลินิกตลอดจนผู้เกี่ยวข้องและบริษัทฯเดือดร้อนเสียหายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายมุ่งหมายหาประโยชน์มิชอบจากการกระทำดังกล่าว

จึงขอออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันปฏิเสธข้อมูลเท็จดังกล่าวทั้งสิ้น พร้อมขอชี้แจงความบริสุทธิ์ในครั้งนี้ เนื่องจากช่วงปี 2566 ขณะยังเป็นแบรนด์คลินิกเดิมนั้นบุคคลดังกล่าวซึ่งร่วมก่อตั้งนั้นเกิดปัญหาจากปัญหาส่วนของตัวบุคคลดังกล่าวเองจนเป็นข่าวเสียหายของบุคคลนั้น (ซึ่งสามารถตรวจสอบข่าวได้ตามที่ปรากฏทางโซเชียลมีเดียต่างๆ) จากเหตุดังกล่าวมีผู้คนต่างๆเข้าใจผิดทำให้ยอดขายตกลูกค้าไม่มาใช้บริการเนื่องจากความเสื่อมเสียชื่อเสียงดังกล่าวของบุคคลดังกล่าว ซึ่งส่งผลชัดเจนในสาขาที่เกิดขึ้นทำให้ยอดตกต่ำรายได้หดหายเงินไม่พอกับค่าใช้ต่าง ๆ จนสุดท้ายต้องปิดกิจการสาขาบางสาขา

ต่อมาบุคคลดังกล่าวจึงเสนอขายหุ้นให้ทั้งหมดผู้ถือหุ้นที่เหลือพร้อมทั้งลาออกจากการเป็นกรรมการในขณะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นนั้นซึ่งขณะนั้นบริษัทฯและกิจการไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีนักตลอดจนเกิดสภาวะปัญหาต่างๆตามที่เรียนข้างต้น จึงยุติกิจการ พริมยา คลินิก แบรนด์คลินิกเดิม (ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากทางหน่วยงานราชการต่างๆ)

โดยผู้ถือหุ้นและกรรมการเดิมที่ซื้อหุ้นจากบุคคลนั้นแล้ว จึงรีบเข้าแก้วิกฤติปัญหาก่อตั้งสร้างแบรนด์ใหม่ในนามแบรนด์คลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) จนถึงปัจจุบันและมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกิจการเครือร่วมพันธมิตรธุรกิจดูแลแบรนด์ดังกล่าวร่วมกันเพื่อดูแลลูกค้าในแต่ละสาขา โดยไม่มีบุคคลดังกล่าวร่วมก่อตั้งหรือแก้ไขเผชิญวิกฤตปัญหาตลอดจนไม่ได้ร่วมบริหารแต่อย่างใด

นอกจากนี้บุคคลดังกล่าวได้พยายามกระทำการให้ทางแบรนด์คลินิกรวมถึงผู้เกี่ยวข้องตลอดจนทีมบริหารเดือดร้อนเสียหายหลายครั้งรวมถึงแจ้งเท็จต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งได้มีการเข้าชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานแล้ว ตลอดจนต่อมาถูกกระทำการต่าง ๆหลายครั้งให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก จนไม่อาจวางเฉยได้จึงฟ้องคดีต่อศาลตามที่แถลงการณ์ข้างต้น และได้รับความเมตตาสถิตซึ่งความยุติธรรมในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมีคำสั่งประทับรับฟ้องขณะนี้มีผลออกมาแล้ว 1 คดีให้มีคำสั่งประทับรับฟ้อง (เนื่องจากที่เป็นคดีความระหว่างกันในขณะนี้ จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหมดได้เนื่องจากจะเป็นการก้าวล่วงฯ และไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมในหลายๆคดี)

ดังนี้จึงขอแถลงการณ์เพื่อชี้แจงป้องกันความเสียหายซึ่งอาจเกิดขึ้นลุกลามจากความเท็จที่บิดเบือนทั้งสิ้น รวมถึงหลักฐานเอกสารต่าง ๆ ที่บุคคลดังกล่าวนำสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ อีกทั้งหลักฐานที่อ้างว่าเป็นเอกสารคลินิกก็ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้นและแตกต่างกับเอกสารฉบับจริงรวมถึงที่นำส่งศาลในการสืบพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องอย่างเป็นพิรุธ

ทางคลินิกขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลินิกแต่อย่างใด และเหตุที่ออกแถลงการณ์เบื้องต้นนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์พร้อมย้ำเตือนไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือหลงเชื่อข้อมูลเท็จดังกล่าว ในการนี้ขอสงวนสิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อความเสียหายอันพึงมีทั้งสิ้นทั้งปวง และขอความเห็นใจอย่าฟังความข้างเดียว (พร้อมทั้งข้อมูลตรวจสอบที่อ้างถึงตามแถลงการณ์นี้นั้นประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ ต่างกับที่ปรากฏอ้างฝ่ายเดียวที่อยู่ในโซเชียลขณะนี้)

ทางคลินิกฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเข้าใจในมุมมองของทุกฝ่ายและรับข้อมูลอย่างมีสติเพื่อไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดี พร้อมขอฝากข้อคิดที่ยึดถือมั่นของคลินิกต่อเหตุการณ์นี้ในเรื่องความจริงคือ “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ”

แถลงการณ์จาก คลินิกเดอร์มาทีจ เอสเธติคส์
ภาพจาก Facebook : Dermatige Aesthetics
หมอกลาง
ภาพจาก : พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ ของแทร่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button