นักวิทย์ไขคำตอบ “การเล่นกับแมว” ดีต่อมนุษย์ยังไง และแมวได้อะไรกลับบ้าง

นักวิทยาศาสตร์เผยคำตอบแล้วว่า การเล่นกับแมว ส่งผลต่อมนุษย์เรามากน้อยแค่ไหน และในมุมกลับกัน แมว มีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เล่นกับคน
แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหยิ่งและรักสันโดษ แต่ก็มีงานวิจัยใหม่ที่ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์อาจสามารถผูกพันกับแมวได้มากขึ้นผ่านสารเคมีในสมองที่ชื่อว่า “ออกซิโทซิน” (Oxytocin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ฮอร์โมนแห่งความรัก”
ออกซิโทซินเป็นสารเคมีชนิดเดียวกับที่หลั่งออกมาเมื่อแม่อุ้มลูก หรือเมื่อเพื่อนกอดกัน ซึ่งส่งเสริมความไว้วางใจและความรักใคร่ โดยนักวิทยาศาสตร์พบว่าการมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นมิตรจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งออกซิโทซินทั้งในสุนัขและเจ้าของ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับแมว
งานวิจัยในปี 2021 ของญี่ปุ่นพบว่า การลูบคลำแมวเป็นเวลาสั้นๆ จะช่วยเพิ่มระดับออกซิโทซินในตัวเจ้าของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแมวส่งเสียงครางเบาๆ และไม่เพียงแต่ทำให้มนุษย์รู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยลดฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลและลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
ขณะที่งานวิจัยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 พบว่า เมื่อเจ้าของลูบคลำ, กอด หรืออุ้มแมวอย่างผ่อนคลาย ระดับออกซิโทซินของเจ้าของก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และระดับออกซิโทซินของแมวเองก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน หากพวกมันไม่ได้ถูกบังคับ
ลอรา เอลิน พิกอตต์ อาจารย์ด้านประสาทวิทยาจาก London South Bank University กล่าวว่า แม้การมีปฏิสัมพันธ์กับแมวในแต่ละวันจะสามารถช่วยป้องกันความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ แต่โดยทั่วไปแล้วสุนัขจะมีการตอบสนองของออกซิโทซินที่แข็งแกร่งกว่าแมว
ในการทดลองหนึ่งในปี 2016 นักวิทยาศาสตร์พบว่าสุนัขมีระดับออกซิโทซินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 57% หลังจากการเล่นกับเจ้าของเป็นเวลา 10 นาที ในขณะที่แมวมีระดับเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 12% เท่านั้น
พิกอตต์อธิบายว่า สุนัขเป็นสัตว์สังคมที่เดิมอยู่กันเป็นฝูง การสบตา, การลูบไล้ และการยอมรับจากมนุษย์ จึงเป็นพฤติกรรมที่กระตุ้นการหลั่งออกซิโทซินได้ทั้งสองฝ่าย แต่แมวมีวิวัฒนาการมาจากนักล่าที่ชอบอยู่ตามลำพัง ซึ่งไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทางทางสังคมที่ชัดเจนเพื่อความอยู่รอด ดังนั้น แมวอาจจะเก็บพฤติกรรมการปล่อยออกซิโทซินไว้ใช้เฉพาะเมื่อรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง
กุญแจสำคัญในการสร้างความผูกพันกับแมวคือการเข้าใจวิธีการสื่อสารของพวกมัน แมวต่างจากสุนัข ตรงที่ไม่ต้องใช้การสบตาเป็นเวลานานเพื่อสร้างความผูกพัน แต่จะใช้สัญญาณที่เรียบง่ายกว่า เช่น การกระพริบตาช้าๆ ซึ่งเป็นเหมือน “รอยยิ้มแบบแมวๆ” ที่สื่อถึงความปลอดภัยและความไว้วางใจ
ดังนั้น หากแมวของคุณกระพริบตาช้าๆ หรือปีนขึ้นมาบนตักคุณเพื่อขอกอดอย่างแผ่วเบา จงรู้ไว้ว่า ฮอร์โมนแห่งความรักกำลังเพิ่มขึ้นในสมองของคุณ ช่วยเพิ่มความไว้วางใจและบรรเทาความเครียดในชีวิตประจำวัน และแมวเองก็กำลังมีความสุขในแบบของตัวเองด้วยเช่นกัน
อ้างอิง : theconversation.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: