ข่าวการเมือง

จำได้ไหม คดีนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” ศาลรับฟ้อง 4 ชื่อ อดีต ป.ป.ช. ไม่ยอมเปิดข้อมูล

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งรับฟ้องอดีตคณะกรรมการ ป.ป.ช. 4 ราย ในคดีที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่สั่งให้เปิดเผยข้อมูลในสำนวนคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ก่อนหน้านี้ นายวีระ สมความคิด ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จงใจไม่แสดงรายการทรัพย์สินประเภทนาฬิกาข้อมือราคาแพงและแหวนประดับอีกหลายรายการในบัญชีทรัพย์สิน แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะนั้น (จำเลยที่ 3 ถึงที่ 10) มีมติไม่รับเรื่องไว้ไต่สวน

ต่อมา นายวีระได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย ขอข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนในคดีดังกล่าวจาก ป.ป.ช. จำนวน 3 รายการ ได้แก่

  • รายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
  • ความเห็นของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทุกคนที่รับผิดชอบสำนวน
  • รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะนั้นมีมติไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว อ้างว่าเป็นความเห็นภายในหน่วยงาน และเรื่องยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกฎหมายห้ามเปิดเผย

นายวีระจึงได้อุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ซึ่งคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยให้ ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลทั้ง 3 รายการ แต่ ป.ป.ช. ยังคงให้ข้อมูลเพียงบางส่วน อ้างว่าบางรายการต้องได้รับอนุญาตจากพยานก่อน

นายวีระจึงนำคดีไปฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลส่วนใหญ่ตามที่ร้องขอ แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่เห็นด้วยและได้อุทธรณ์คดีสู่ศาลปกครองสูงสุด

ในที่สุด ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลข่าวสารทั้ง 3 รายการแก่นายวีระ

แม้ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดต่อมา (จำเลยที่ 1, ที่ 3, ที่ 7, ที่ 8, ที่ 9, ที่ 11 และที่ 12) กลับไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น โดยคณะกรรมการเสียงข้างมากมีมติให้ยื่นเรื่องขอพิจารณาคดีใหม่ต่อศาลปกครองสูงสุด และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายแทนที่จะเปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งศาล

การกระทำดังกล่าวทำให้นายวีระยื่นฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นคดีใหม่ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คำวินิจฉัยของศาลอาญาคดีทุจริตฯ

ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่ง แบ่งการพิจารณาการกระทำของ ป.ป.ช. เป็น 2 ช่วงเวลา คือ

ช่วงก่อนมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ศาลเห็นว่า การที่ ป.ป.ช. ชุดแรกมีมติไม่เปิดเผยข้อมูล เป็นการใช้ดุลพินิจตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ และในขณะนั้นยังไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน การกระทำในช่วงนี้จึงยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีในส่วนนี้จึงไม่มีมูล

ช่วงหลังมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ศาลเห็นว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดมีผลผูกพันให้ ป.ป.ช. ต้องปฏิบัติตาม การที่กรรมการ ป.ป.ช. ฝ่ายเสียงข้างมาก (จำเลยที่ 3, 7, 8, 11) ลงมติไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา จึงมีมูลว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย คดีในส่วนนี้จึงมีมูล

ประทับรับฟ้อง จำเลย 4 ราย ได้แก่ พล.ต.อ.ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ (จำเลยที่ 3), นางสาวสุภา ปิยะจิตติ (จำเลยที่ 7), นายวิทยา อาคมพิทักษ์ (จำเลยที่ 8) และนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา (จำเลยที่ 11)

ยกฟ้อง จำเลยรายอื่น รวมถึงเลขาธิการ ป.ป.ช. (จำเลยที่ 1 และ 2) เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ และกรรมการเสียงข้างน้อย (จำเลยที่ 9 และ 12) ที่เห็นควรให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล

ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณา นายวีระได้ถอนฟ้องนายปรีชา เลิศกมลมาศ (จำเลยที่ 4) ไปก่อนหน้านี้

ศาลได้นัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลยทั้ง 4 คน และกำหนดวันนัดพิจารณาคดีต่อไปในวันที่ 28 ตุลาคม 2568

ย้อนเส้นทาง 9 ปี คดีนาฬิกาหรู “พล.อ.ประวิตร” จนถึงวัน ป.ป.ช. ไม่ยอมเปิดข้อมูล

เรื่องราวเริ่มต้นจากภาพถ่าย ครม. ปี 2560 เผยนาฬิกา Richard Mille ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีทรัพย์สิน พล.อ.ประวิตร อ้างยืมเพื่อนสนิท “ปัฐวาท” ก่อน ป.ป.ช. มีมติ 5:3 เสียงยกคำร้อง จนนำไปสู่การต่อสู้ในชั้นศาลให้เปิดเผยข้อมูล

ภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กรณีพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี พบว่ามีการแจ้งครอบครองนาฬิกา 1 เรือน ยี่ห้อ TW STEEL มูลค่า 15,000 บาท การแจ้งข้อมูลนี้เป็นการแจ้งทรัพย์สินประเภทนาฬิกาครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 9 ปีก่อน

ปลายปี 2560 ระหว่างการถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 3” ที่ทำเนียบรัฐบาล มีจังหวะที่ พล.อ.ประวิตร ยกมือขึ้นบังแดด ทำให้ปรากฏนาฬิกาหรูบนข้อมือ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นนาฬิกายี่ห้อ Richard Mille รุ่น RM 029 ราคาประมาณ 3.6 ล้านบาท แต่นาฬิกาเรือนดังกล่าวไม่ปรากฏอยู่ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในปี 2557

หลังจากนั้น สื่อต่างๆ ได้ตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่ามีนาฬิกาหรูอีกอย่างน้อย 22-23 เรือน ที่ พล.อ.ประวิตร สวมใส่ในช่วงปี 2557-2560 แต่ไม่ได้ระบุไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ทำให้เกิดการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบในข้อกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ

พล.อ.ประวิตร ได้ชี้แจงว่านาฬิกาทั้งหมดเป็นของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนสนิทที่ให้ยืมมาสวมใส่ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลนาฬิกาอย่างน้อย 17 เรือนสู่สาธารณะ รวมมูลค่ากว่า 29 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • Richard Mille รุ่น RM 029 ราคาประมาณ 3.6 ล้านบาท
  • Richard Mille รุ่น RM 30 ราคาประมาณ 4 ล้านบาท
  • Richard Mille รุ่น RM010 ราคาเริ่มต้น 3.26 ล้านบาท
  • Rolex รุ่น Cosmograph Daytona Ice Blue Dial Platinum ราคาประมาณ 1.9 – 2.4 ล้านบาท
  • Patek Philippe รุ่น 5960/1A ราคาอยู่ที่ 1.5 – 1.66 ล้านบาท
  • Audemars Piguet รุ่น Royal Oak Chronograph Automatic Blue Dial ราคา 8 แสนบาท
  • Rolex รุ่น 116655BKSRS ราคาประมาณ 8 แสนบาท
  • Patek Phillippe รุ่น 3970 ราคาประมาณ 3.6 ล้านบาท
  • Patek Phillippe รุ่น 5960P ราคาประมาณ 3.12 ล้านบาท
  • Rolex รุ่น Pro Hunter Deepsea Green ราคาประมาณ 8 แสนบาท
  • Rolex รุ่น Rolex Cosmograph Daytona สองสี ทองคำเหลือง 18K กับ Stainless Steel มูลค่า 554,000 บาท
  • Rolex Yacht-Master Rose Gold 2-Tone Chocolate ขนาด 40 มม. ราคาตลาด 460,000 บาท
  • Rolex รุ่น Datejust Oyster 41 ราคา 413,000 บาท
  • Audemars Piguet Royal Oak Stainless Steel หน้าปัดสีดำ ขนาด 44 มม. ราคาตลาด 580,000 บาท
  • Patek Philippe รุ่น Aquanaut Brown Dial 18k Rose Gold ราคาตลาด 1.15 ล้านบาท
  • Rolex Day-Date 36 ทองคำ 18K rose gold ราคาตลาด 1.2 ล้านบาท
  • Rolex รุ่น GMT Master ii pepsi ทองคำขาว 18K ราคาตลาด 1.36 ล้านบาท

มติ ป.ป.ช. ยกคำร้อง

หลังใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 1 ปี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 เสียง ให้ยกคำร้องในคดีนี้ โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ได้ถอนตัวจากที่ประชุม

กรรมการเสียงข้างมาก 5 ราย ที่มีมติยกคำร้อง ได้แก่ นายปรีชา เลิศกมลมาศ, นายณรงค์ รัฐอมฤต, นายวิทยา อาคมพิทักษ์, นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร และ พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์

กรรมการเสียงข้างน้อย 3 ราย ได้แก่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ, น.ส.สุวณา สุวรรณจูฑะ และ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง

ป.ป.ช. ได้ให้เหตุผลว่า กรณีดังกล่าวเป็นการ “ยืมใช้คงรูป” จากการตรวจสอบพบว่านาฬิกาเป็นของนายปัฐวาทจริง

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นคำร้องขอให้ ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลการไต่สวนในคดีนี้ แต่ ป.ป.ช.ปฏิเสธที่จะเปิดเผย นายวีระจึงนำเรื่องฟ้องต่อศาลปกครอง และในที่สุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

หลังจากนั้น ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อหวังจะไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องของ ป.ป.ช. ส่งผลให้ ป.ป.ช. ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดและเตรียมเปิดเผยข้อมูลการไต่สวนในคดีนี้ต่อไป

จนนำไปสู่ความคืบหน้าล่าสุดของคดี ที่รายงานไปข้างต้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button