โหนกระแสวันนี้ ขุดประเด็นจัดตั้ง 6 มูลนิธิวัดพระบาทน้ำพุ ส่องานเข้าหนัก เหตุ มหาหมี กางข้อกฎหมายชัด แต่ละวัดมีได้ไม่เกินที่ละแห่งจี้มหาดไทยตรวจสอบยังไง ทั้งที่กม.แพ่งและพาณิชย์ ไม่ได้มีช่องให้ทำได้ใดๆ
ผลพวงจากที่ พระราชวิสุทธิประชานาถ นามเดิม อลงกต พลมุข อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเป็นที่เรียบร้อยนั้น
ล่าสุดในรายการโหนกระแสวันนี้ (19 ส.ค.) ได้เปิดข้อมูลสำคัญเมื่อ “มหาหมี” ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิกองทัพธรรม กรณีถ้าสมมติหลวงพ่อโดนตรวจสอบจะมีเรื่องอะไบ้าง ?
งานนี้ มหาหมี แขกรับเชิญตอบชัดเจน อันดับแรก 1.มีเรื่องทุจริต 2.เบียดบังทรัพย์ในการเป็นเจ้าพนักงาน และ 3. สนับสนุนเรื่องของเจ้าพนักงาน อธิบายง่ายๆ คือจะมีในส่วนที่เป็น “ตัวการ” กับ “ผู้สนับสนุน” ตัวการจะเชื่อมโยงจากพระอลงกต ส่วนผู้สนับสนุน ตัวการร่วมจะเป็น คฤหัสถ์ หรือ ฆราวาส และคนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้เกิดการเบียดบังทรัพย์ถ้าเกิดมีกรณีนี้จริงๆ เกิดขึ้น ซึ่งต้องมีเจตนาพิเศษในการร่วมกันที่จะกระทำความผิด ทราบอยู่ว่ากระบวนการดังกล่าวไม่ชอบแล้วทำ ก็จะเป็นผู้สนับสนุน
แต่ถ้าเชื่อโดยสุจริตใจว่าเป็นคำสั่งของเจ้าอาวาสอาจถึงไม่ทราบแน่ชัดว่าเรื่องอะไร อาจไม่ใช่ผู้สนับสนุนซึ่งต้องพิสูจน์สุดท้ายที่เจตนา แต่หลักใหญ่ใจความ คนที่จะเป็น “ตัวการร่วม” หรือสนับสนุน ส่วนมากจะคนทำเอกสาร-ทำบัญชี่อะไรต่างๆ และอยู่กำกับนโยบายของวัด เช่น ไวยาวัจกร หรือคณะกรรมการวัดไปจนมูลนิธิต่างๆ กัน
มาถึงประเด็น 6 มูลนิธิ “กรรชัย” เพิ่งทราบ 1 วัดตั้งมูลนิธิได้ไม่เกิน 1 มูลนิธิ
สำหรับประเด็นที่ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี สั่งตรวจสอบทุกมูลนิธิของวัดพระบาทน้ำพุ ปรากฏเบื้องต้นมีกระแสว่ารายรับ-รายจ่ายวัด 8 บัญชี บางบัญชีมีค่หลักพัน หลักหมื่น หรือบัญชีละล้านนิดๆ ทั้งที่มูลค่าเป็นหลักพันล้านที่มีข่าวคนทยอยบริจาคเข้ามาไม่ขาดสายในการร่วมบุญ
ประเด็นนี้ มหาหมีระบุว่า เงินที่เข้ามาเป็นผลประโยชน์จะมี 2 ส่วน คือ
- ต้องเป็นรายได้วัดส่วนหนึ่ง
- มูลนิธิอีกส่วน
มหาหมีย้ำว่า ทั้งสองส่วนมีสถานะเป็นนิติบุคคล รายได้จะแยกจากกันชัดเจน ขณะที่วัดเนื่องจากเป็นสมบัติของสงฆ์ เงินที่จะไหลผ่านจึงมีทางเดียว คือ “บัญชีวัด”
ดังนั้นที่ กรรชัยสงสัยว่าตอนนี้บัญชีเงินในวัด 8 บัญชีเหลือติดสมุดแค่บัญชีละพันกว่าบาทบ้าง หมื่นกว่าบาทสวนทางกับตัวเลขรายได้บุญระดับพันล้าน จึงมีการย้ำตรงนี้ว่า เรื่องรายรับ-รายจ่ายพร้อมกับโครงการเข้าออกในส่วนของทางวัดนั้นต้องมีหลักฐานชัดเจน
เช่นเดียวกับในส่วนมูลนิธิก็ต้องเป็นรูปแบบเดียวกัน เพราะว่ามูลนิธิเป็นนิติบุคคลแล้วขึ้นตรงกับผู้ว่าฯ รมต.มหาดไทย กับปลัดกระทรวงมหาดไทยที่เป็นนายทะเบียน ฉะนั้นต้องมีการยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่ายไปที่สรรพากร แล้วส่งต่อไปที่จังหวัด ซึ่งยึดตามข้อเท็จจริงยังไงฝั่งมูลนิธต้องมีบัญชีโครงการต่างๆ โดยละเอียดเพื่อชี้แจง เพราะทุกอย่างสามารถตรววจสอบได้ทั้งหมดแน่นอน 100 % ถ้าทำโปร่งใส
ต่อมาข้อสงสัยที่วัดพระบาทน้ำพุจัดตั้งมูลนิธิมากถึง 6 แห่งนั้น ตามประมวลกฏหมายแพ่งพาณิชย์ การจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาได้หลักๆ ต้องมีอาคารสำนักงาน จดแจ้งที่ตั้งสำนักงานใหญ่ชัดเจน
ดังนั้น มหาหมีจึงฟันธงว่า วัดๆ เดียวจดทะเบียนมูลนิธิมากขนาดนี้จึงเป็น “เรื่องที่แปลก” อีกทั้งประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้เปิดช่องใดๆ ให้สามารถทำขนาดนั้นได้เพราะทรัพย์สินต้องมีแยกต่างหาก
เมื่อถามว่าแล้ว 6 มูลนิธิ แล้วรับจดได้อย่างไร คร่าวๆ คือไล่จากไปที่อำเภอ-จังหวัด-มหาดไทย แต่ต้องมีที่ตั้งของมูลนิธิสำนักงานใหญ่ ซึ่งประเด็นของเคสวัดพระบาทน้ำะพุดันเป็นที่เดียวกันหมดเลย จึงต้องไปถาม “มหาดไทย” ว่า รับจดได้อย่างไร ?
รายชื่อ 6 มูลนิธิวัดพระบาทน้ำพุ
- มูลนิธิธรรมรักษ์ (จดทะเบียน : ลพบุรี)
- มูลนิธิอาทรประชานารถ (จดทะเบียน : ลพบุรี)
- มูลนิธิธนาคารบุญเจ้าคุณอลงกต (จดทะเบียน : ลพบุรี)
- มูลนิธิฟ้าสร้างไทย (จดทะเบียน : ลพบุรี)
- มูลนิธิพุทธศถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ (จดทะเบียน : ลพบุรี)
- มูลนิธินาถะ (จดทะเบียน : กทม.)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มหาหมี ชี้ พระอลงกต ลาออก 5 ปียังเอาผิดได้ ลุ้น รักษาการฯ ตั้งไม่ดีเจอแบบวัดบางคลาน
- ย้อนอุบัติเหตุ หลวงพ่ออลงกต เลือดออกในสมอง ต้นเหตุความจำหาย
- ลาม 30 วัด ปมใบอนุโมทนาไม่ตรงปก ใบหลวงพ่อต้องมี ไม่มีพระต้องรีบแจ้งเอาผิด
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
