ข่าว

เพื่อไทย โต้ รถไฟฟ้า 20 บาท ไม่ใช่ประชานิยมไร้ฐานคิด ปัดเอื้อนายทุน

พรรคเพื่อไทย ชี้แจงนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไม่ใช่ประชานิยมที่ไร้ฐานคิด แต่เป็นนโยบาย แตะโครงสร้าง หวังอัดฉีดเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปีสู่เศรษฐกิจฐานราก

(วันที่ 15 กรกฎาคม 2568) พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงโต้ ต่อการวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาล ได้มีความพยายามออกมาชี้แจงและตอบทุกข้อสงสัยสำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชน โดยยืนยันว่านโยบายนี้ไม่ได้เป็นเพียงนโยบายประชานิยมที่ไร้ฐานคิด แต่เป็นความพยายามออกแบบระบบเศรษฐกิจของเมืองครั้งสำคัญ ที่จะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อชีวิตคนเมืองและเศรษฐกิจภาพรวมอย่างมาก

ไร้วิสัยทัศน์ หรือมีที่มาที่ไป

ต่อข้อกล่าวหาที่ว่านโยบายนี้ไร้วิสัยทัศน์และไม่มีที่มาที่ไปนั้น มีคำชี้แจงว่า หัวใจของนโยบายนี้คือการทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่คนทุกคนเข้าถึงได้โดยง่าย โดยไม่มีอุปสรรคด้านราคาเป็นกำแพงกั้น สำหรับตัวเลข “20 บาท” ไม่ได้คิดขึ้นมาลอย ๆ

แต่มาจากการคำนวณค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเที่ยวของผู้โดยสารที่ 35 บาท แล้วตั้งเป้าลดค่าเดินทางลง 40% ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีเงินเหลือในกระเป๋าอย่างน้อยเดือนละ 900 บาท หรือปีละ 10,800 บาท และเมื่อคำนวณจากผู้โดยสารราว 1.4 ล้านคนต่อวัน จะหมายถึงการอัดฉีดเงินกลับสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้มากกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี

ภาพอินโฟกราฟิก คำชี้แจงของพรรคเพื่อไทย
ภาพจาก: FB/ พรรคเพื่อไทย

ใช้ภาษีคนทั้งชาติเพื่อคนกรุงหรือ

สำหรับประเด็นที่ว่าเป็นการนำภาษีของคนทั้งประเทศมาใช้เพื่อคนกรุงเทพฯ นั้น ต้องทำความเข้าใจว่า “คนกรุงเทพฯ” ไม่ได้มีแค่ผู้ที่มีทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึง “ประชากรแฝง” อีกเกือบ 10 ล้านคนที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อเข้ามาทำงานและใช้ชีวิต

การลดค่าเดินทางจึงเป็นการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้โดยตรง ทำให้พวกเขาสามารถเลือกที่พักที่ไกลออกไปแต่มีราคาถูกลงได้ และมีเงินเหลือเก็บเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ย่อมส่งผลดีทางอ้อมต่อเศรษฐกิจของทั้งประเทศในภาพรวม

เอื้อประโยชน์นายทุนหรือ

ต่อข้อครหาว่าเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนนั้น มีคำอธิบายว่า นโยบายนี้มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การที่รัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุนส่วนต่างให้กับผู้ประกอบการเอกชน เป็นไปเพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย เพราะเมื่อรัฐต้องการกำหนดราคาค่าโดยสารให้ต่ำกว่าต้นทุนเพื่อประโยชน์ของประชาชน รัฐในฐานะเจ้าของนโยบายก็จำเป็นต้องรับผิดชอบส่วนต่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นหลักการปกติและไม่ได้แตกต่างจากแนวทางที่พรรคการเมืองอื่นเคยเสนอไว้

แค่ประชานิยม หรือแตะโครงสร้าง

แม้จะยอมรับว่านี่คือนโยบาย “ประชานิยม” ที่มุ่งหวังคะแนนนิยมจากคนส่วนใหญ่ แต่ก็ยืนยันว่าเป็นการประชานิยมที่ “แตะโครงสร้าง” อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนหมู่บ้านในอดีต

สำหรับนโยบาย 20 บาทตลอดสายนั้น จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างหลายด้าน ทั้งการลดปัญหาการจราจรและมลพิษทางอากาศในระยะยาว รวมถึงการกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากจากเงินที่ประชาชนประหยัดได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx