สื่อจีนวิเคราะห์ สมเด็จฯ ฮุน เซน หลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่มีการโพสต์ภาพห้องที่เคยเป็นที่พำนักของทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังเหตุการณ์คลิปเสียงหลุด การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังแพทองธาร ชินวัตร ในสถานการณ์ที่ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเปราะบาง
หากความไว้วางใจทางการเมือง คือสัญญาที่ไม่มีเป็นตัวอักษร การปล่อยคลิปเสียงสนทนาส่วนตัว ก็คือการฉีกสัญญานั้นทิ้งอย่างไม่ใยดี และดูเหมือนว่าสำหรับ สมเด็จฯ ฮุน เซน การทำลายความไว้ใจนั้นยังไม่จบสิ้น เมื่อล่าสุดได้โพสต์ภาพห้องที่เคยเป็นที่พำนักของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในบ้านพักส่วนตัวที่กัมพูชา การกระทำที่ดูเหมือนเป็นการ รำลึกความหลัง อย่างอบอุ่นนี้ กลับกลายเป็นการส่งสัญญาณที่าทายในภาวะที่ความสัมพันธ์กำลังเปราะบาง
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เข้าเยี่ยมชมห้องที่เขาตั้งชื่อว่า ห้องทักษิณ และ ห้องยิ่งลักษณ์ ณ บ้านพักในกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นห้องที่เขาเคยให้สองอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยใช้เป็นที่พำนักในยามที่สถานการณ์การเมืองในไทยผันผวน
การกระทำนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ความสัมพันธ์ฉันมิตรกว่า 30 ปีระหว่างเขากับตระกูลชินวัตรได้ จบสิ้นลงแล้ว จากเหตุการณ์คลิปเสียงหลุด การนำภาพและเรื่องราวที่ควรจะเป็นความลับสุดยอดของ เส้นทางหลบภัย ในอดีตของพันธมิตรมาเปิดเผยต่อสาธารณะ จึงถูกมองว่าไม่ใช่การแสดงความเป็นมิตร แต่เป็น “การทดสอบขอบเขตความไว้ใจ” ครั้งใหม่ที่น่าขนลุก
บทวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศชี้ว่า การกระทำของฮุน เซน ในครั้งนี้ มีความหมายที่ลึกซึ้งและน่ากลัวกว่าแค่การรำลึกถึงมิตรภาพ มันคือการส่งสาส์นเตือนไปถึงนางสาวแพทองธารว่า “ผมยังกุมความลับของคุณอยู่อีกมาก และมากยิ่งกว่านี้”
การปล่อยคลิปเสียงสนทนาส่วนตัวได้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงในสังคมไทย ไม่ใช่เพราะเนื้อหาในคลิป แต่เป็นเพราะตัว การกระทำ ที่ทำลายบรรทัดฐานทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง นางสาวแพทองธารเรียกท่านว่า “อา” และพยายามใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ แต่ท่านกลับเลือกที่จะนำ “คำขอร้องส่วนตัว” นั้นมาเปิดโปงต่อสาธารณะ
เมื่อความไว้ใจได้ “แตกละเอียดไม่มีชิ้นดี” ไปแล้ว การกลับมารำลึกถึงความหลังว่า “เราเคยดีต่อกันแค่ไหน” ก็ไม่สามารถเยียวยาอะไรได้อีก เหมือนกับกระดาษที่ยับไปแล้วย่อมไม่อาจกลับมาเรียบดังเดิมได้ ความไว้ใจมีเพียงแค่ครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย
บทวิเคราะห์ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า พันธมิตรที่แท้จริงไม่ใช่คนที่จะโพสต์รูปรำลึกความหลัง แต่คือคนที่พร้อมจะรับกระสุนแทนคุณได้ ในวันที่เลือกจะทำลายความไว้ใจไปแล้ว การพูดว่าเราเคยดีต่อกัน ก็มีแต่จะสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้ผู้ฟัง
บทวิเคราะห์ยังตั้งข้อสังเกตว่า นางสาวแพทองธารซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เธอเลือกที่จะไม่ตอบโต้สงครามน้ำลายโดยตรง แต่เลือกที่จะเดินทางไปยังชายแดน และประกาศกร้าวว่า นี่คือแผ่นดินไทย ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ที่เงียบเชียบแต่หนักแน่น
และสำหรับสมเด็จฯ ฮุน เซน หากท่านยังเห็นคุณค่าของมิตรภาพเก่าแก่อย่างที่พูดจริง สิ่งที่ควรทำที่สุดในเวลานี้ อาจไม่ใช่การโพสต์รำลึกความหลังต่อไป แต่คือการใช้ ความเงียบเป็นการรักษาเกียรติครั้งสุดท้ายที่เหลืออยู่
ที่มา: TAIGUO
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฮุน เซน ประกาศ ตัดสัมพันธ์ 30 ปี ตระกูลชินวัตร ซัด แพทองธาร ทรยศชาติ
- ทางการกัมพูชา ประณามคนทำคลิป AI “ฮุนเซน” จี้ต้องรับผิดชอบ
- จีน เบรก “ฮุน เซน” ยัน อาวุธเขมร ยิงไม่ถึง กรุงเทพฯ ฝั่งไทยเหนือกว่ามาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
