พี่สาวของ ครูมัท เปิดใจทั้งน้ำตา น้องสาวเครียดภาระงานหนักจนเลือกจบชีวิต เผยจดหมายสะท้อนความกดดันมหาศาล วอนให้เป็นอุทาหรณ์สุดท้ายถึงกระทรวงศึกษาฯ เร่งทบทวนโครงสร้างก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอย
ภาพที่พี่สาวเคยเห็นจนชินตา คือ ครูมัท น้องสาววัย 39 ปี นั่งทำงานงก ๆ จนดึกดื่นค่อนคืน พี่ของครูมัทมองด้วยความชื่นชมมาตลอดว่าน้องสาวเป็นคนขยันและทุ่มเทกับหน้าที่ แต่ใครจะคาดคิดว่าเบื้องหลังภาพนั้น คือความกดดันมหาศาลที่กัดกินจิตใจ จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ความจริงทั้งหมดเพิ่งถูกเปิดเผยผ่านจดหมายลาตายที่น้องสาวทิ้งไว้ พี่สาวเล่าทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวไม่เคยระแคะระคายถึงความทุกข์ของครูมัทเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เธอเคยคิดว่าเป็น ความขยัน แท้จริงแล้วคือ ภาระงานที่หนักเกินไป จนร่างกายและจิตใจของน้องแบกรับต่อไปไม่ไหว
เสียงร่ำไห้ของพี่สาวจึงไม่ใช่แค่ความเสียใจ แต่คือเสียงสะท้อนแทนเพื่อนครูอีกหลายคนที่อาจกำลังเผชิญชะตากรรมเดียวกัน พี่สาวครูมัทเชื่อว่าการจากไปของน้องสาวคือการเสียสละเพื่อส่งเสียงเรียกร้องไปยังกระทรวงและผู้มีอำนาจ ให้ทบทวนภาระงานของครูอย่างจริงจัง ก่อนที่จะมีใครต้องสังเวยชีวิตให้กับปัญหานี้อีก และวอนว่าขอให้น้องเป็นคนสุดท้ายอย่าให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ โหนกระแส รายงานว่า ล่าสุด ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ได้เข้าเยี่ยมครอบครัวเพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น และรับปากว่าจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที หากพบว่าครูมัทถูกสั่งให้ทำงานเกินหน้าที่จริง จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาผู้รับผิดชอบตามขั้นตอนต่อไป
ย้อนกลับไป เมื่อวันอังคารที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทีมข่าว เดอะ ไทยเกอร์ ได้รายงานว่า สำนักข่าว แนวหน้า ได้เปิดเผยข้อมูล ล่าสุด ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สั่งการเด็ดขาด ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทันที โดยขีดเส้นตายให้ได้คำตอบภายใน 7 วัน พร้อมลั่นวาจาว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ เปิดเผยว่าตนได้รับรายงานและได้อ่านจดหมายลาตายของครูมัทแล้ว ทำให้ทราบถึงความทุกข์ที่ต้องแบกรับงานด้านการเงิน บัญชี และพัสดุไว้เพียงลำพัง ซึ่งปัญหานี้เป็นที่รับทราบกันดีในกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็ก แต่เลขาธิการ กพฐ. ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดเรื่องราวที่นี่จึงบานปลายจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นได้
การสอบสวนครั้งนี้จึงต้องลงลึกถึงผู้เกี่ยวข้องทุกคน ตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนไปจนถึงเจ้าหน้าที่การเงิน เพื่อค้นหาความจริง ว่าที่ร้อยตรี ธนู เชื่อว่าต้องมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นในโรงเรียนอย่างแน่นอน เรื่องนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงความห่วงใยและย้ำว่าจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้
นอกจากการสอบสวนเฉพาะกรณี การจากไปของครูมัทได้กลายเป็นวาระเร่งด่วนในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. เพื่อทบทวนแนวทางลดภาระครูทั่วประเทศ โดยเล็งนำเทคโนโลยี AI และระบบธุรการร่วมมาใช้ เพื่อให้ครูได้กลับไปทำหน้าที่สอนในห้องเรียนอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน เลขาธิการ กพฐ. ยังได้มอบหมายภารกิจด้านความปลอดภัยให้ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมหลบภัยในโรงเรียน 7 จังหวัดติดชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับนักเรียนและครูในพื้นที่เสี่ยงภัย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ขีดเส้น 7 วัน สอบปม ครูมัท เสียชีวิต จ่อรื้อระบบพัสดุ-การเงิน รร.เล็กทั่วไทย
- เปิดจดหมาย ครูมัท เครียดลาโลก รร.บริหารงานแย่ ถูกโยนผิด อ่านยิ่งสะเทือนใจ
- ศธ. เสียใจ “ครูมัท” เครียดผูกคอลาโลก สั่งสอบ เร่งลดภาระงานครู
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : โหนกระแส
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
