
รีวิว How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร (2025) ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นที่เคารพต้นฉบับ อาจจะไม่แปลกใหม่ แต่ยังโคตรมีหัวใจเช่นเคย
เรื่องย่อ How to Train Your Dragon (2025)
เมื่อภัยคุกคามจากอดีตหวนกลับมาสั่นคลอนชะตากรรมของทั้งชาวไวกิ้งและเหล่ามังกรบนเกาะเบิร์ก มิตรภาพที่ไม่น่าจะก่อตัวขึ้นมาได้ ระหว่าง ฮิคคัพ ไวกิ้งหนุ่มผู้ชาญฉลาด และ ทูธเลส มังกรไนท์ฟิวรีผู้กล้าหาญ ได้กลายมาเป็นกุญแจสำคัญในการนำทั้งสองเผ่าพันธุ์ก้าวสู่อนาคตใหม่ร่วมกันอย่างน่าอัศจรรย์

รายชื่อนักแสดงนำ
- เมสัน เธมส์ (Mason Thames) รับบท ฮิคคัพ (Hiccup)
- นิโค พาร์คเกอร์ (Nico Parker) รับบท แอสทริด (Astrid)
- เจอราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler) รับบท สโตยค์ เดอะ วาสต์ (Stoick)
- นิค ฟรอสต์ (Nick Frost) รับบท ก็อบเบอร์ (Gobber)
- จูเลียน เดนนิสัน (Julian Dennison) รับบท ฟิชเลจส์ (Fishlegs)
- บรอนวิน เจมส์ (Bronwyn James) รับบท รัฟนัท (Ruffnut)
- แฮร์รี เทรวาลด์วิน (Harry Trevaldwyn) รับบท ทัฟนัท (Tuffnut)
- รูธ คอดด์ (Ruth Codd) รับบท เพลกมา (Phlegma)
รีวิว How to Train Your Dragon (2025)
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่น How to Train Your Dragon หรือในชื่อภาษาไทย อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ปี 2025 นี้จะมีเนื้อหาเหมือนกับแอนิเมชั่นต้นฉบับที่ออกฉายเมื่อปี 2010 แทบจะทุกอย่าง ดังนั้นหากผู้ชมคนใดต้องการความสดใหม่หนังเรื่องนี้คงไม่ใช่คำตอบอย่างแน่นอน แต่หากคุณเป็นแฟนของซีรีส์นี้ คุณจะหลงรักมันอย่างแน่นอน
ในโลกของภาพยนตร์ การรีเมคหนังแอนิเมชั่นสุดคลาสสิกสู่เวอร์ชันคนแสดงนั้นเป็นเหมือนดาบสองคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันอาจจะเป็นหายนะที่ทำลายความทรงจำดีๆของผู้ชม หรือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่สุดประทับใจ ซึ่งสำหรับภาพยนตร์ How to Train Your Dragon (2025) ต้องยอมรับว่านี่คงไม่ใช่ผลงานที่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็ยังทำให้เรามีความสุขและเพลิดเพลินระหว่างดูจริงๆ

สิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุดคือ แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำเรื่องราวภาพต้นฉบับมาแทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ ฉากเหินหาวสุดพิเศษ บทพูดที่คุ้นเคย แต่นั้นมันทำให้ตัวหนังมี หัวใจและจิตวิญญาณ ได้อย่างเต็มเปี่ยม ความผูกพันระหว่างหนุ่มน้อยผู้ไร้การยอมรับอย่าง ฮิคคัพ และมังกรผู้โดดเดี่ยวในตำนาน (เขี้ยวกุด) ยังคงเป็นแก่นกลางของเรื่องได้อย่างดี ทั้งอารมณ์ความรู้สึก การเอาใจช่วยยังคงเหมือนราวที่ดูครั้งแรกไม่มีผิด
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 30 นาทีแรกของภาพยนตร์ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ชมต้องปรับตัวและตั้งใจดูมากเป็นพิเศษ เพราะบางมุกตลกที่เราเคยดูในโลกแอนิเมชั่น มาอยู่ในรูปแบบคนจริงๆแล้ว กลับรู้สึกแปลกๆ และไม่เป็นธรรมชาติ แต่สิ่งที่ช่วยให้มันผ่านไปได้อย่างด้วยดี คงหนีไม่พ้นการแสดงของ เมสัน เธมส์ ในบทบาทของฮิคคัพจริงๆ
เมสัน เธมส์ ได้แสดงฝีมือการแสดงได้อย่างสุดยอด เขาสามารถถ่ายทอดความเป็น ฮิคคัพ ที่น่ารัก, น่าเห็นใจ และเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และทำให้ผู้ชมพร้อมที่จะร่วมเดินทางและให้กำลังใจไปกับเขาไม่ว่าสถานการณ์ไหน จนบางครั้งผมมีความคิดว่า “เหมือนเขาเกิดมาเพื่อรับบทนี้จริงๆ”

พร้อมทั้งงานภาพ ไม่ว่าจะเป็นโลกของเกาะเบิร์ก (Berk) หรือเหล่ามังกรต่าง ได้ถูกเนรมิตออกมาได้อยาสงน่าทึ่ง มังกรไแต่ละตัวมีความสมจริง การเคลื่อนไหว และมีอารมณ์ผ่านดวงตาราวกับมีชีวิตอยู่จริงๆ โดยเฉพาะ เขี้ยวกุด ที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี CGI ได้อย่างยอดเยี่ยม มันไม่ใช่แค่มังกรที่ดูสมจริง แต่เป็นมังกรที่เราสามารถรู้สึกผูกพันและสัมผัสได้ถึงความเป็นเพื่อน เทคนิคเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในโลกแฟนตาซีที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และทำให้ผู้ชมสามารถดื่มด่ำไปกับการผจญภัยได้อย่างเต็มที่
โดยรวมแล้ว How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร (2025) เป็นภาพยนตร์ที่เหมือนจดหมายรักถึงแฟนๆ ที่เติบโตมาพร้อมกับฮิคคัพและเขี้ยวกุด และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ชมรุ่นใหม่ที่จะได้สัมผัสกับเรื่องราวแห่งมิตรภาพ, การค้นหาตัวเอง และการทำลายกำแพงแห่งความเข้าใจผิด ไม่ว่าคุณจะแฟนของแฟรนไชส์นี้หรือเพิ่งมาติดตามเป็นครั้งแรก นี่คือภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะมันจะพาคุณบินไปกับการผจญภัยที่เต็มไปด้วยหัวใจ เสียงหัวเราะ และข้อคิดดีๆ ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจไปอีกนาน

ดังนั้นจากที่กล่าวมาข้างต้นมาทั้งหมดนี้ ผมจึงขอให้คะแนนกับภาพยนตร์เรื่อง How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร (2025) ไว้ที่ 8/10 คะแนนครับ
How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร (2025) เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ อย่าได้เชื่อคำวิจารณ์จากปากคนอื่น แต่อยากให้ทุกคนไปพิสูจน์ด้วยตาของคุณเอง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ขอให้รับชมภาพยนตร์ให้สนุกครับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: