นายกฯอิ๊งค์-ภูมิธรรม สั่งห้ามปิดด่าน ปล่อยกัมพูชาจ่อปืนใหญ่ อ้างกลัวเศรษฐกิจพัง

นายกฯ อุ๊งอิ๊ง-ภูมิธรรม สั่งเบรกทัพฟ้าผ่า ห้ามปิดด่านช่องบกเด็ดขาด แม้มีรายงานเขมรเสริมกำลัง จ่อปืนใหญ่ประชิดชายแดนไทย รัฐบาลหวั่นเศรษฐกิจชายแดนพัง ซ้ำเติมวิกฤตชาติ
ชายแดนช่องบกที่อุบลราชธานี ร้อนระอุขึ้นมาอีกรอบ หวิดเกิดการปะทะเดือดระหว่างไทยกับกัมพูชา ถึงขั้นที่กองทัพไทยเตรียมแผนใหญ่ สั่งปิดด่านพรมแดนตลอดแนวเพื่อตอบโต้แล้ว แต่แผนทั้งหมดต้องถูกเบรกหัวทิ่มแทบไม่ทัน เมื่อล่าสุด สำนักข่าว เดลินิวส์ รายงานว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีกลาโหม ภูมิธรรม เวชยชัย ได้สั่งการด่วนจี๋ให้ระงับแผนนั้นไว้ก่อน การตัดสินใจเบรกเกมส์เดือดครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางรายงานข่าวที่น่ากังวลอย่างยิ่งว่า ฝั่งกัมพูชานั้นได้มีการเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่พิพาทอย่างต่อเนื่อง ซ้ำร้ายยังเหิมเกริมถึงขั้นมีการหันปากกระบอกปืนใหญ่เล็งมาทางฝั่งประเทศไทยอีกด้วย
ชนวนเหตุของความตึงเครียดระลอกใหม่นี้ ปะทุขึ้นหลังจากฝ่ายความมั่นคงของไทยตรวจพบการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธหนักของทหารกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณช่องบก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยอ้างกรรมสิทธิ์ ทหารไทยในพื้นที่แสดงความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อการกระทำดังกล่าว มองว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยชัด ๆ และหากฝ่ายไทยนิ่งเฉย ก็อาจเท่ากับเป็นการยอมรับสถานการณ์นั้นไปโดยปริยาย กองทัพจึงได้แจ้งไปยังรัฐบาลถึงความจำเป็นในการประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว เพื่อเป็นการกดดันและตอบโต้ทางการทูตไปยังฝ่ายกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายรัฐบาลไทย นำโดยนายกรัฐมนตรีและนายภูมิธรรม ได้ขอให้กองทัพไทยใช้ ความอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด และอย่าเพิ่งดำเนินการใด ๆ ที่จะเป็นการยกระดับความตึงเครียดให้บานปลาย โดยให้เหตุผลว่ามีความกังวลอย่างยิ่งว่า การปิดด่านชายแดนจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการค้าขายตามแนวชายแดน ซึ่งจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศไทยให้หนักหนาสาหัสยิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ประเทศไทยและกัมพูชาก็กำลังจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ในเร็วๆ นี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่แล้ว
ที่สำคัญ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าที่รัฐบาลไทยจะตัดสินใจสั่งเบรกแผนของกองทัพนั้น ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่าไทยเตรียมจะปิดด่านชายแดน
พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้รีบโทรศัพท์สายตรงด่วนจี๋มายัง นายภูมิธรรม เวชยชัย เพื่อร้องขอไม่ให้ฝ่ายไทยดำเนินการปิดด่านชายแดน
หลังจากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้ นายภูมิธรรม เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับ บิ๊ก ๆ ในกองทัพ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโดยรวม
แม้ว่าการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในระยะสั้นไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ปัญหาการเผชิญหน้าทางทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณช่องบกและพื้นที่พิพาทอื่นๆ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองและแก้ไขกันอย่างระมัดระวังต่อไปอย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯกัมพูชา เตรียมฟ้องศาลโลก ปมตาเมือนธม-ช่องบก พร้อมรบหากถูกรุกล้ำ
- ทหารไทย-กัมพูชา ร่วมโต๊ะทานอาหารเช้า ลดความตึงเครียดพิพาทช่องบก
- ไทยสั่งปิด 6 ด่าน-10 จุดผ่อนปรน ชายแดนกัมพูชา หลังเหตุปะทะ-ปลุกกระแสแบนของไทย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: