ฮุน เซน เดือดจัด ลั่นกลางสภาเขมร ท้ากองทัพไทย ปมปะทะชายแดนมอมเตย อ้าง จุดปะทะคือดินแดนกัมพูชา ข้าเคยไปเหยียบมาแล้ว
ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุขึ้นร้อนฉ่าอีกระลอก เมื่อ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และบิดาของ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ออกมาแถลงการณ์พิเศษอย่างเผ็ดร้อนกลางที่ประชุมวุฒิสภากัมพูชาเมื่อช่วงสายของวันนี้ (29 พฤษภาคม 2568) กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะด้วยอาวุธระหว่างทหารกัมพูชาและทหารไทยบริเวณ มอมเตย จังหวัดพระวิหาร ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันก่อน โดย สมเด็จฮุน เซน ได้กล่าวท้าทายกองทัพไทยอย่างดุเดือด พร้อมประกาศแสนยานุภาพทางการทหารของกัมพูชาแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม
ผู้นำเขมรมากประสบการณ์ เริ่มต้นด้วยการเรียกร้องให้พี่น้องชาวกัมพูชาอยู่ในความสงบ และเชื่อมั่นในรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา ไม่ใช่ด้วยการใช้กำลังทหาร พร้อมทั้งเตือนให้ระวังข่าวปลอมที่หวังจะเสี้ยมให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ สมเด็จฮุน เซน ยืนยันเสียงแข็งว่า อาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลที่ส่งไปยังชายแดนนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อโจมตีประเทศไทยหรือก่อสงคราม แต่เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินของกัมพูชาอย่างเต็มที่
ท่านยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ยิงปะทะที่ชายแดนเมื่อวันก่อนนั้น ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลไทยหรือกระทรวงกลาโหมไทย แต่อาจจะเกิดขึ้นจาก คนบางกลุ่มบางคน เท่านั้น พร้อมทั้งตอกย้ำอย่างหนักแน่นว่า สถานที่เกิดเหตุยิงปะทะคือดินแดนของกัมพูชา ซึ่งข้าพเจ้า (ฮุน เซน) เคยเดินทางไปเยือนมาแล้วเมื่อปี 2552
จากนั้น สมเด็จฮุน เซน ได้ย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งเดือดๆ บริเวณปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตากระเป่ย ในช่วงปี 2551 ถึง 2554 โดยอ้างว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด แม้ในตอนนั้นนายพลคนสำคัญอย่าง เจีย ดารา และ ชิน จันปุร์ จะร้องขออนุญาตให้ใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มล้ำเข้าไปในดินแดนประเทศไทยไกลถึง 40 กิโลเมตร แต่สมเด็จฮุน เซน ในฐานะผู้บัญชาการในขณะนั้น ก็ไม่อนุญาตให้ทำ
ก่อนจะกล่าวท้าทายอย่างเผ็ดร้อนถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจากฝั่งไทยโดยอ้างชื่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าหากกองทัพไทยต้องการจะบุกนครวัด สมเด็จเดโชจะอนุญาตให้ทหารไทยเข้ามาเลย ให้ยูเอ็นเห็นว่าใครเป็นผู้รุกราน จากนั้นจะใช้กองทัพกัมพูชาเข้าทำลายล้างกองทัพไทยให้แหลกเป็นจุณ พร้อมทั้งโอ้อวดถึงสมรรถนะด้านการป้องกันภัยทางอากาศของกัมพูชาว่า เครื่องบินรบของไทยอย่าหมายว่าจะมาทำอะไรได้ง่าย ๆ กัมพูชามีระบบป้องกันภัยทางอากาศประสิทธิภาพสูงที่เรียกว่า ตาข่ายฟ้า สามารถสอยเครื่องบินให้ร่วงได้สบาย ๆ
ในช่วงท้ายของการแถลง สมเด็จฮุน เซน ได้เรียกร้องให้ประชาชนกัมพูชาให้การสนับสนุนกองทัพ เพื่อแสดงพลังความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังในการป้องกันประเทศ กัมพูชาปรารถนาให้แนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทุกแห่งเป็นเส้นเขตแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา นอกจากนี้ยังได้กล่าวชื่นชมทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า และแสดงความขอบคุณบริษัทชิปมองที่ประกาศจะนำสิ่งของไปช่วยเหลือทหาร พร้อมทั้งเรียกร้องให้กาชาดในจังหวัดพระวิหารเข้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สมรภูมิช่องบก อยู่ที่ไหน ทำไมเป็นข้อพิพาทชายแดน ไทย-กัมพูชา ปะทะไม่สิ้นสุด
- บิ๊กอ้วน สั่ง ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา วอนอย่าพูดเรื่องดินแดน
- ทอ.ส่ง F-16 บินไล่ K-8 โผล่ป่วนชายแดน กาญจนบุรี-เมียนมา รอบที่แล้วไม่เข็ด
อ้างอิง : Samdech Hun Sen of Cambodia
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
